ไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีย่านบางปู วอดกว่าพันล้านบาท

สมุทรปราการ-เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 มิถุนายน 2557 ร้อยตำรวจโท นิพล คงพูล ร้อยเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นของบริษัทบางปู อินเตอร์ โมเดิล ซิสเต็มส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 596 หมู่ 4 ซอย 13 บี นิคมอุตสาหกรรมบางปู ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบางตำบลบางปูและเทศบาลใกล้เคียงกว่า 20 คันเดินทางตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นโกดังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ชั้นเดียว ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงกลุ่มควันดำทะมึนจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้า พนักงานของโกดังที่เกิดเหตุได้ช่วยกันใช้รถโฟลค์ลิฟส์ มาทำการเคลื่อนย้ายถังเคมีที่บรรจุอยู่ในถังขนาด 200 ลิตรที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโกดังที่เกิดเหตุออกจากตัวอาคาร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้เนื่องจากภายในที่เกิดเหตุมีเคมีทั้งชนิดผงและชนิดน้ำที่ไวไฟเก็บอยู่จำนวนมากจึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงลุกโหมอย่างรุนแรงและลุกไหม้อย่างรุนแรงก่อนลุกลามไปลุกไหม้โกดังล็อกอื่น ๆ ที่แบ่งออกเป็น 25 ล็อกในขณะที่เพลิงลุกไหม้มีเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆ ประกอบกับตัวอาคารโกดังที่เกิดถล่มลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปดับไฟภายในโกดังได้ ทำได้เพียงฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังโรงงานใกล้เคียง ขณะเดียวกันโรงงานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุต่างพากันอพยพคนงานนับพันคนออกจากโรงงานหมดแล้วเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย
จากการสอบถาม นายสมบัติ คุ้มมี อายุ 46 ปี หนึ่งในพนักงานโกดังที่เกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและคนงานคนอื่น ๆ ทำงานกันอยู่ด้านหน้าโกดัง และได้พบเห็นกลุ่มควันและเปลวเพลิงลุกไหม้ออกมาจากห้องเย็นซึ่งอยู่ด้านหลังโกดังล็อกแรก ก่อนที่ไฟจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนและพนักงานได้พยายามช่วยกันเอาถังเคมีไฟช่วยกันฉีดสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้เนื่องจากไฟได้ลุกลามออกมาลุกไหม้สารเคมีไวไฟแล้ว จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเพลิงไหม้ผ่านไปเกือบ 5 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำได้เพียงดับเปลวไฟในบางส่วนได้ส่วนภายในที่ไฟกำลังลุกไหม้เคมียังไม่สามารถเข้าไปดับเปลวไฟได้ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกรุงเทพให้นำน้ำยาเคมีโฟมมาช่วยในการดับเปลวไฟในเคมีและทินเนอร์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าภายในมีการเก็บเคมีประเภท เมลามีน / ไนลอน / เรซิ่น / กัมม็อกซอน ยาฆ่าหญ้าและฆ่าแมลง - เม็ดพลาสติกประเภทโพลีโพรพีลีน และทินเนอร์ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงทำให้ยากต่อการดับเพลิง
ด้านนายอดิเรก เมฆลอย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้เราสามารถควบคุมเพลิงได้บางส่วน ขณะนี้ตัวโรงงานได้ไหม้เต็มพื้นที่หมดแล้ว และต้องรอการเข้าไปดับเพลิงด้านใน โดยเรามีการเตรียมจัดทีมผจญเพลิงเข้าไปดับไฟด้านใน
ขณะที่นายวีรพงษ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานได้เดินทางมาตรวจสอบพบว่าโกดังที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บสินค้าซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู มีพื้นที่ประมาณ 9 พันตารางเมตร ซึ่งขณะนี้รถดับเพลิงทั้งในและนอกพื้นที่กว่า 70 คัน ได้เข้ามาระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงรวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการผจญเพลิง เรียกได้ว่ามีความพร้อมทุกอย่าง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็อยู่ในระหว่างควบคุมเพลิงจนควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ไม่ให้ลุกลามไปที่อื่น แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยในการที่จะทำให้เพลิงสงบลงในพื้นที่ ที่กำหนด ส่วนในเรื่องสารเคมีเท่าที่ทราบ มีเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติกเท่านั้นแต่ก็ต้องขอเข้าไปตรวจสอบก่อนถึงจะบอกได้
ในขณะเดียวกันทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลแพรกษา ทำการเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหมอกควันเอาไว้ที่อาคารเอนกประสงค์ภายในเทศบาลแพรกษา เพื่อรองรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน ล่าสุดได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งอยู่ใต้ลมชาวบ้านจำนวนมากเริ่มได้รับผลกระทบแล้วและเริ่มมีการอพยพชาวบ้านเข้าไปพักในศูนย์ช่วยเหลือผู้ประภัยแพรกษาแล้ว โดยเฉพาะในตลาดท้ายนิคมอุตสาหกรรมบางปู ที่บรรดาแม่ค้าพ่อค้าต้องเอาผ้ามาปิดปากปิดจมูก และมีชาวบ้านบางส่วนเริ่มอพยพไปพักอาศัยชั่วคราวที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแพรกษาแล้ว
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งมีผู้สูดดมควันพิษเข้าไปจำนวน 2 ราย ชื่อนางสำลี อ่อนน้อมดี อายุ 65 ปี ที่มีอาการสำลักควันจนหายใจไม่ออก ได้เข้ารักษาตัวในห้อง ไอซียู โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ และนางนิตยา ฉิมนอก พนักงานบริษัท มินเทค ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตรที่สำลักควันไฟจนมีอาการแสบคอเวียนศีรษะและอาเจียน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำเช่นเดียวกัน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ เดินทางเข้าทำการตรวจวัดมลพิษทางอากาศพบว่าโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุมีสารซันเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ เกินกว่ามาตรฐานเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่จะเข้าไปดับเพลิงต้องสวมใส่หน้ากากป้องกันสารพิษเข้าไปปฎิบัติการ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งจะได้เชิญตัวพนักงานและผู้เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวน พร้อมทั้งได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท