ยึดอาวุธสงครามสะสมเป็นคลังแสง! ห่างสถานที่สำคัญแค่ 500 เมตร

ความคืบหน้า เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 3 (พล.ร.3 ) กองทัพภาคที่ 2(ทภ.2 ) ค่ายสุรนารี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น ตรวจค้นบ้านพักเลขที่210/3 ถ.ราชนิกูล ในชุมชนจิระพัฒนา เขตเทศบาลนครราชสีมา โดยมีนายนพดล หรือโจ  เพชรมะดัน อายุ 42 ปี อดีตพลทหาร ปัจจุบันทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รับเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว พบของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมีตราสัญลักษณ์เป็นอาวุธที่ใช้ในราชการตำรวจ และทหาร
วันที่ 25 มิ.ย. พล.ท พิสัณห์  จุลดิลก รักษาการ ผบช.ภาค 3 นครราชสีมา และ พ.ต.อ สนธยา  แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ควบคุมตัวนายนพดล  มาแถลงข่าว นายนพดล   กล่าาว่า  มีความชื่นชอบเกี่ยวอาวุธต่างๆ และคุ้นเคยกับทหาร ตำรวจ  เมื่อมีการประกาศขาย หากมีเงินก็จะซื้ออาวุธที่ถูกจำหน่ายหรือปลดประจำการมาเก็บสะสมไว้ ไม่ได้นำไปขายให้กับใคร พล.ท พิสัณห์ กล่าวว่า คำให้การของผู้ต้องหาในกลุ่มขอนแก่นโมเดล ได้ซัดทอดถึงที่มาของอาวุธสงคราม โดยเชื่อมโยงนายนพดล ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าอาวุธสงคราม ในเขตรอยต่อจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี และภาคเหนือ จึงได้จับกุม พร้อมตรวจยึดได้ของกลางจำนวนมาก เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างซื้อมาสะสม ไม่ยอมซัดทอดถึงเครือข่ายแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขยายผลการจับกุม แม้จะไม่ให้การเป็นประโยชน์มากนัก แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายามแกะรอยติดตามเส้นทางการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ 
  เจ้าหน้าที่จับกุม (ขอสงวนนาม) ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตำรวจภูธรภาค 4 บุก มาจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 โดยคลังแสงขนาดย่อมที่เก็บสะสมอาวุธจำนวนมาก ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง นครราชสีมา ห่างจากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 และ กองทัพภาคที่ 2 รวมทั้งศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา  500 เมตร  ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหารายนี้มีสายสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับนายตำรวจและนายทหารในพื้นที่ถึงขั้นเข้าออกบ้านพักผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สะดวก คำให้การผู้ต้องหาในกลุ่มขอนแก่นโมเดลที่ติดต่อซื้ออาวุธสงครามเพื่อเตรียมก่อเหตุไม่สงบ ได้ซัดทอดถึงจ่าแบล็ค เชื่อมโยงมาสู่การจับกุมนายนพดล เจ้าหน้าที่ ฯ เกรงข่าวจะรั่วจึงใช้เจ้าหน้าที่นอกพื้นที่มาจับกุมในช่วงเย็นวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา จากนั้นชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขยายผลที่ จ.ขอนแก่น  และที่มาของอาวุธสงคราม ส่วนหนึ่งพบว่าเกี่ยวข้องกับทหารสังกัดหน่วยรบแห่งหนึ่ง