วัยรุ่นเชียงรายเดือด! ชักปืนยิงอริดับ หลังติดไฟแดงแล้วท้าทายกัน

เมื่อไปถึงพบศพวัยรุ่นชายสวมเสื้อยดอแขนสั้นสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีดำทราบชื่อคือ นายภานุพงศ์ หรือเอ สุภาวงศ์ อายุ 17 ปี  ชาว ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นักศึกษาสถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย  นอนเสียชีวิตอยู่โดยมีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณราวนมซ้าย 1 นัด และมีผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีก 3 คน โดยใกล้ๆศพผู้ตายพบลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 นัด  ปลอกกระสุน 2 ปลอกและหัวกระสุนปืนอีก 1 หัว ใกล้กันพบรถจักรยานอนด้าดรีม สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขธค 368 เชียงราย ของผู้ตายและ คขร 75 เชียงรายของเพื่อนคนตายจอดอยู่
จากการสอบปากคำ นายราชันย์  เก่งกล้า อายุ 26 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะที่ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านมาบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบผู้ตายและเพื่อนรวม 4 คน ที่มีอาการมึนเมามีปากเสียงกับมือปืนที่เป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างอ้วนท้วม ส่วนสูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมกางเกงยีนส์ เสื้อแขนสั้น ตัดผมรองทรง จากนั้นชายคนดังกล่าวที่มีปืนอยู่ในมือได้หันปากกระบอกปืนไปยังผู้ตายและเพื่อนก่อนลงมือยิงปืนใส่ผู้ตาย 1 นัดถูกเข้าที่ราวนมซ้ายตัดขั่วหัวใจตายทันทีแล้วยิงใส่เพื่อนผู้ตายอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินหลบหนีไป หลังจากนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ก่อนที่รถฉุกเฉินจะมารับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ด้าน พ.ต.อ.ชูวิทย์  กองแก้ว ผกก.สภ.เมืองเชียงราย กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าคนตายและเพื่อนได้ขับขี่รถมาจากบ้านวังลิ้นจี่ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองและอยู่ในอาการมึนเมาโดยกำลังจะกลับห้องพักที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเมื่อมาถึงแยกไฟอแดงได้พบกับคนร้ายที่หยุดรถรอสัญญาณไฟอยู่ก่อนหน้า จากนั้นน่าจะมีการพูดแซวกันไปมาและมีปากเสียงกันขึ้น คนตายและเพื่อนได้ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนฮ่องลี่
ในขณะที่คนร้ายก็ได้ขับรถติดตามมาจนถึงที่บริเวณหน้าร้านซิเมลิโอ จากนั้นคนร้ายได้เกิดชกต่อยกับคนตาย  เพื่อนนายภานุพงศ์  จึงเข้าไปช่วย ทำให้คนร้ายสู้ไม่ได้จึงเอาอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่พกติดตัวมาด้วยกระหน่ำยิงนายภานุพงศ์  และเพื่อน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บอีก 3 คนส่วนคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ในเบื้องต้นได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจเพื่อสกัดกั้นการหลบหนีของคนร้ายพร้อมกับให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย