ยึดไม้พะยูงกลางป่ายางพารา ได้ผู้ต้องหาอีก 2 ราย

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 23 มิ.ย. พ.อ.มงคล  หอทอง ผบ.ฉก.กรม ทพ.ที่ 21 สืบทราบว่ามีการลักลอบแปรรูปไม้พะยูงส่งขายต่างประเทศของแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติอยู่บริเวณสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านโนนก่อ หมู่ที่ 6 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ  จึ่งสั่งการให้ ร.ท.วิทยา  สิงห์อร ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 2103 และทีมงาน วางแผนจับกุม โดยนำกำลังเข้าตรวจค้นในสวนยางพาราดังกล่าว พบชายต้องสงสัยกำลังใช้เลื่อยโซ่ยนต์แปรรูปไม้พะยูงที่กองอยู่ในสวนยางพารา จึงแสดงตัวเข้าจับกุม  แต่ชายคนดังกล่าววิ่งหลบหนีไปได้ ทิ้งไว้แต่เลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อสตีล สีส้มขาวพร้อมโซ่และบาร์  รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 อาร์ สีบรอนซ์คาดเขียว ทะเบียน กยน 359 หนองคาย ถูกถอดล้อหน้าออก ที่ตะกร้าหน้ารถมีย่ามสะพายสีดำวางอยู่เปิดดูพบยาบ้าอยู่ในถุงพลาสติกชนิดกดปิด-เปิดจำนวน 5 เม็ด ใกล้กันมีไม้พะยูงแปรรูปแล้ว 10 ท่อน/เหลี่ยม ตราชั่งขนาด 60  กิโลกรัมสำหรับไว้ชั่งไม้พะยูง  1 เครื่องและที่สระน้ำใกล้กันมีไม้พะยูงท่อนที่ยังไม่แปรรูปจำนวน 72 ท่อนซ่อนอยู่ในก้นสระจึงนำขึ้นมาตรวจสอบ รวมปริมาตร 0.926 ลูกบาศก์เมตร จึงยึดไว้เป็นของกลาง
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังมุดดำเอาไม้พะยูงที่แช่อยู่ในก้นสระขึ้นมาตรวจสอบอยู่นั้น  ได้มีนายจำรัส หรือแหล่ ศรีกุล อายุ 36 ปีบ้านเลขที่ 283 หมู่ที่ 2 บ้านโพธิ์ ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ  ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บง 4668 มุกดาหาร วิ่งเข้ามาจอด โดยมี นายพรหมมา  หรือกุ้ง ขุนใหญ่ อายุ  29 ปี นั่งมาด้านข้างจึงเข้าควบคุมตัวสอบสวน โดยนายจำรัสอ้างว่า ตนและนายพรหมมาได้ขายเลื่อยโซ่ยนต์ให้ นายสมคิด คำสว่าง  อายุ 29 ปีเจ้าของไม้พะยูงกองนี้ แต่ขณะขับขี่รถ จยย.มาเก็บเงินเกิดยางหน้ารั่ว จึงขอยืมรถยนต์นายสมคิด นำล้อหน้าไปปะยางในเมือง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.เมตร  มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติด  และร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาตควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคาดดำเนินคดี