โดยนางสาวอรสา ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเป็นชาวนาอยู่ในตำบลลาดบัวขาว ช่วงสายได้เดินทางไปที่ธกส.สาขาบ้านโป่ง เพื่อไปรับเงินในโครงการจำนำข้าวที่ยังค้างอยู่ จำนวน 144,000 บาท และนำเงินจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่โรงสีศิวะมหาเทพ ในตำบลหนองปลาหมอ อำเภอบ้านโป่ง เพื่อรับเงินค่าข้าวนาปรังที่นำไปขายสดให้กับโรงสี จำนวน 94 ,000 บาท
จากนั้นก็นำเงิน เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงเพื่อจะนำไปจ่ายค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเช่าที่ทำนา โดยขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อจะกลับบ้าน และถึงมาเมื่อถึงที่เกิดเหตุมีรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ ตอนเดียว สีเขียว สภาพเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามหลังมา และเรียกให้จอด ตนนึกว่าเป็นคนบ้านเดียวกันจึงได้หยุดรถ ซึ่งในมีชาย 3 คน จากนั้นชาย 2 คน สวมหมวกสีดำ ปิดบังใบหน้า ได้วิ่งลงมาและเอาปืนมาจี้ที่ด้านข้างแล้วบอกให้อยู่เฉยๆและให้เอาเงินที่มีอยู่ในตัวมาให้หมด ด้วยความกลัวจึงควักเงินที่อยู่ในกระเป๋าให้กับคนร้ายไป และกลัวว่าคนร้ายจะเอารถจักรยานยนต์ไปด้วยซึ่งมีเงินอยู่ใต้เบาะอีกกว่า 1 แสนบาท จึงตัดสินใจดึงลูกกุญแจขว้างไปในป่าข้างทาง คนร้ายหลังจากได้เงินไป ก็พากันขึ้นรถหลบหนีไปทางถนนสายเขางู- เบิกไพร ต่อมาได้มีชาวบ้านขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาจึงร้องขอความช่วยเหลือให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ