svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รถบรรทุกหลับใน ชนราวสะพานตกแม่น้ำกุยบุรี ดับ 2

07 มิถุนายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประจวบคีรีขันธ์ - รถบรรทุก 6 ล้อหลับในพุ่งชนราวสะพานข้ามแม่น้ำกุยบุรี ก่อนตกแม่น้ำกุยบุรีเสียชีวิตคารถ2ศพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 ชม.ถึงจะนำศพทั้งคนขับและผู้โดยสารที่นั่งมา พร้อมรถบรรทุกขึ้นมาจากแม่น้ำกุยบุรี ได้ท่ามกลางประชาชนที่มุงดูเป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 06.10 น.วันที่ 7 มิถุนายน  ร.ต.อ.เอนก บุญคงดี พนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า พบรถบรรทุกประสบอุบัติเหตุพุ่งชนราวสะพานบ้านบน กม.294 ถ.เพชรเกษม ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนพุ่งตกลงไปในน้ำ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนขับรถและผู้โดยสารภายในเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฎิ วัดกุยบุรี พร้อมอุปกรณ์กู้ภัยรุดไปยังจุดเกิดเหตุ  ที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจาก สี่แยกกุยบุรี มุ่งหน้าลงภาคใต้ ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ พบมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุ่งดูอยู่เต็มราวสะพาน โดยบนถนนมีร่องรอยการครูดของรถบรรทุก6ล้อ เข้ากับแผงกันทางเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร ก่อนที่จะพบว่าราวสะพานยาวกว่า 20 เมตรได้ถูกชนจนหักและพื้นสะพานบางส่วนหลุดตกลงไปในแม่น้ำกุยบุรี โดยมีแท่งปูนซีเมนต์หักเกลื่อนพื้นสะพาน นอกจากนี้ยังมีแท่งเหล็กที่เป็นราวสะพานหักงอห้อยอยู่ระหว่างสะพานกับพื้นด้านล่างแม่น้ำเป็นที่หวาดเสียว เจ้าหน้าที่พบว่าอีกว่าที่บริเวณด้านล่างแม่น้ำกุยบุรี ซึ่งอยู่ลึกจากสะพานราว 30-40 เมตร พบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 81-6545 ชัยภูมิ ด้านข้างประตูรถ ระบุข้อความ Sika Delive พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า และจมอยู่ภายในน้ำเกือบทั้งคัน สภาพส่วนห้องโดยสารและกระบะพังยับเยิน สิ่งของหลายอย่างลอยน้ำไป โดยมีถังน้ำขนาดใหญ่หลายใบตกอยู่ซึ่งน้ำที่บรรจุอยู่ภายในไหลลงไปในแม่น้ำโดยไม่ทราบว่าเป็นน้ำประเภทใด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ฯยังไม่ทราบชะตากรรมของคนขับรถและผู้โดยสาร เนื่องจากส่วนหัวจมมิดอยู่ใต้น้ำทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฎิ ต้องใช้ให้ชุดนักประดาน้ำดำลงไปดูใต้น้ำ ก็พบว่าส่วนหัวของรถปักอยู่ในโคลนใต้น้ำ ส่วนคนขับและผู้โดยสาร รวม 2 คน ติดอยู่ภายใน และเสียชีวิตแล้วทั้ง2คน แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้เพราะส่วนตัวรถพังยับเยินและอัดติดคนเอาไว้ประกอบกับคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ด้วยจึงไม่สามารถนำศพออกจากรถได้ในทันที ทำให้การกู้ศพขึ้นมาเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องประสานนำรถยก มาผูกกับสลิงเพื่อผูกรั้งรถดึงขึ้นมาจากแม่น้ำ แต่ก็พบอุปสรรคเพราะขอบตลิ่งลาดชัน และสะพานอยู่สูง จากนั้นจึงได้จะพยายามปรับการลาดสลิงอีกครั้ง ด้วยกานำไปผูกติดกับต้นไม้เพื่อที่จะพลิกรถบรรทุกดังกล่าวให้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ใช้เวลาในการช่วยเหลืออยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงก็สามารถนำรถขึ้นมาจากน้ำและนำศพผู้เสียชีวิต 2ราย โดยสามารถนำผู้โดยสารเป็นหญิงออกมาได้ จากนั้นได้ตัดสายเข็มขัดนิรภัยนำคนขับรถเป็นชายอีก 1 ราย สภาพดินโคลนเต็มตัวออกมาได้สำเร็จในที่สุด ท่ามกลางการมุงดูของชาวบ้าน และเสียงดีใจของชาวบ้านที่มารอลุ้นดูการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่กู้ภัยนานเกือบ 3 ชั่วโมงจนเต็มสะพาน  โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุยบุรี ยังไม่สามารถว่า ผู้ตายทั้ง 2 รายเป็นใครบ้าง เพราะยังไม่สามารถหาเอกสารบัตรประชาชนหรือบัตรขับขี่ภายในรถได้ เพราะมีดินโคลนอยู่เต็มไปหมด และเอกสารบางส่วนได้ลอยไปกับกระแสน้ำแล้ว  ตำรวจ สภ.กุยบุรี ได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ ตี4 เศษที่ผ่านมา ได้ยินเสียงดังคล้ายการเกิดอุบัติเหตุรถชน แต่ไม่ทราบทิศทางว่าดังมาจากด้านใด เนื่องจากบ้านพักอยู่ติดกับถนนเพชรเกษมทำให้ได้ยินเสียงรถตลอดเวลาจึงไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.ซึ่งท้องฟ้าสว่างแล้วจึงได้ออกมาดูก็พบว่าเป็นรถบรรทุกชนราวสะพานจนตกลงไปในแม่น้ำและมีผู้เสียงชีวิตดังกล่าว จึงได้โทรศัพท์แจ้งไปยังตำรวจ สภ.กุยบุรี  ร.ต.อ.เอนก บุญคงดี พนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี กล่าวว่าเบื้องต้นคาดว่า คนขับรถบรรทุกน่าจะหลับในเพราะมีร่องรอยรถครูดกับราวสะพานก่อนจะมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งรถได้ตกลงไปในแม่น้ำกุยบุรี ทั้งนี้ในบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เพราะรถที่หลุดจากไฟแดงก็จะใช้ความเร็วเต็มที่ ประกอบกับมีทางโค้ง ผู้ขับขี่จึงควรต้องระมัดระวัง

logoline