พบอาวุธสงครามเพียบ ทิ้งริมถนนเมืองสัตหีบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. 2557 ร.ต.อ.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งพบรถจักรยานยนต์ และวัตถุต้องสงสัย ถูกทิ้งไว้ริมถนนสาย 332 เส้นทางแยกเกษมพล-แยกเจ บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านเกล็ดแก้ว 8 ม.7 ต.เกล็ดแก้ว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ น.อ.คมพันธ์ อุปลานนท์ ผอ.กองยุทธการและข่าวฐานทัพเรือสัตหีบ และพ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.ปป.สภ.สัตหีบ รุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ (EOD) เข้าทำการเก็บกู้
ต่อมา ร.อ.ชุติเดช ทรงนิสัย หัวหน้าชุดเก็บกู้ พร้อมกำลังรวม 3 นาย เข้าทำการตรวจสอบ โดยปิดกั้นบริเวณไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้และปิดกั้นการจราจร ในรัศมี 20 เมตร เพื่อความปลอดภัย 
จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เมส 111 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่พบวัตถุระเบิด และใกล้กันได้เข้าตรวจสอบถุงปุ๋ยพลาสติกสีขาว และถุงพลาสติกใสอีก 2 ใบ ภายในพบอาวุธปืนอาก้า AK47 จำนวน 2 กระบอก ผลิตในประเทศจีน พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 144 นัด พลุร่มส่องสว่าง จำนวน 6 ลูก ระเบิดควัน M7A3 จำนวน 1 ลูก และแก๊สน้ำตา จำนวน 1 ลูก เบื้องต้น อาวุธทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน แต่ได้มีการลบทำลายหลักฐานหมายเลข หรือรหัส ประจำอาวุธ เพื่อกันการตรวจสอบ 
นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ เปิดเผยว่า การพบอาวุธสงครามจำนวนมากถูกนำมาวางทิ้งไว้ คงเป็นผลสืบเนื่องมาจากขณะนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้โอกาสผู้ที่มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ให้นำมาส่งคืนกับทางราชการ ในระหว่างวันที่ 2 - 10 มิ.ย.57 โดยจะถือไม่มีความผิด แต่ผู้ที่มีไว้ในครอบครองเกรงจะมีการสืบสวนขยายถึงต้นตอของที่มา จึงนำมาทิ้งเพื่อกันการติดตาม 
พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.ปป. กล่าวว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีประกาศเอาผิดกับผู้มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ทางพื้นที่จึงได้มีการระดมกวาดล้างอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการกดดัน ทำให้ผู้มีไว้ในครอบครองต่างเกรงกลัวความผิดนำมาวางทิ้งไว้ เบื้องต้น ได้นำอาวุธสงครามทั้งหมด ส่งตรวจสอบยังกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาที่มาของอาวุธดังกล่าวต่อไป 
ด้าน นางละมุด นันขุนทด อายุ 54 ปี ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ และหวาดผวา โดยเปิดเผยว่า ขณะกำลังเดินออกมาหาเก็บของเก่า ได้มาพบถุงคล้ายมีเศษเหล็ก จงหลงดีใจหากไปขายคงได้เงินหลายบาท แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นอาวุธสงคราม ด้วยความตกใจสุดขีด จึงรีบวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด