svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

คดีอุ้มฆ่า "เอกยุทธ"

04 มิถุนายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

" อำนวย" เรียกตรวจสำนวนคดี " เอกยุทธ " ประชุมเตรียมพร้อม " นำพยานเบิกความในชั้นศาล " ยืนยันไม่ได้รื้อคดีทำใหม่

นครบาล-วันที่ 4 มิ.ย. เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ ช่วยราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รองผบช.น.) เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนนครบาลติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร อดีตนักธุรกิจชื่อดัง ภายหลังได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( ผช.ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รรท.ผบช.น.) ให้กำกับดูแลทางคดีโดยการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมคดีนัดแรกในรอบปี 2557 
หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2556 หลังจากเกิดเหตุประมาณ 3 เดือนคณะทำงานสืบสวนสอบสวนนครบาลได้ส่งสรุปสำนวนคดีฆาตกรรมดังกล่าวให้พนักงานอัยการส่งฟ้องแล้วพร้อมผู้ต้องหาคนสำคัญคือนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วงและพวกที่ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือบีบคอนายเอกยุทธจนขาดอากาศหายใจโดยการประชุมวันนี้มีเพียงนายตำรวจที่ดูแลในพื้นที่เกิดเหตุ สน.วังทองหลาง ชุดสืบสวนนครบาล 4 นายตำรวจระดับ รอง ผกก. รอง - ผบก. จุดที่นายเอกยุทธหายตัวไปเข้าร่วมรวม 10 นายโดยไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ รอง ผบช.น.ที่ทำคดีเข้าร่วมแต่อย่างใด โดย พล.ต.ต.อำนวย ได้สอบถามรายละเอียดการสืบสวนสอบสวนทางคดีและพยานหลักฐานสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมสานต่อการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีกรณีที่มีพยานหลักฐานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดไปตามๆกันตลอดระยะเวลาการหารือภายในห้องประชุม บก.น. 1 โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า เป็นการเรียกสำนวนการสอบสวนมาดูและสอบถามในรายละเอียดเพื่อเตรียมการนำพยานไปเบิกความต่อศาล ส่วนการสอบสวนทางคดีนั้นตนเองไม่สามารถเข้าไปสอบสวนอะไรได้อีกเพราะหมดอำนาจในชั้นสอบสวนแล้วเนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล แต่หากมีพยานหลักฐานในส่วนของผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุน ผู้บงการ ผู้ใช้จ้างวานหรืออะไรก็แล้วแต่ก็พร้อมที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนทันที ส่วนที่มีการพูดว่าจะมีการรื้อคดีมาทำหใม่หรือมีหลักฐานใหม่ตามที่เป็นข่าวนั้นเป็นการพูดคุยและคิดกันไปเองมากกว่า เพราะหากมีจริงพนักงานอัยการจะต้องมีคำสั่งให้สืบสวนสอบสวนต่อแล้ว
รอง ผบช.น. กล่าวต่อว่า การประชุมวันนี้ไม่ได้เป็นการรื้อฟื้นคดีมาทำใหม่อย่างที่เข้าใจกันไม่ได้มีการเตรียมการใดๆอะไรเลยสื่อบางสำนักนำเสนอกันไปเอง เป็นเพียงการสรุปความเข้าใจให้ตรงกันในสำนวนคดีเท่านั้นซึ่งการที่จะขอรื้อคดีใดๆนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อคดีดังกล่าวมีการสั่งไม่ฟ้อง และต่อมามีพยานหลักฐานใหม่ที่สำคัญนำไปสู่การสั่งฟ้องผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีการพิจารณาคดีอาญา มาตรา147 แต่คดีนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว พนักงานสอบสวนส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ประกอบกับคดีนี้เคยมีการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกหลายหน่วยงาน อาทิ กรรมาธิการในสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ทีมทนายความของนายเอกยุทธ รวมทั้งสื่อมวลชนด้วยขอให้เข้าใจตรงกันใหม่จะได้ไม่เกิดความสับสน
ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน กล่าวว่า คณะทำงานฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ส่งสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ส่งฟ้องศาลแล้วซึ่งตนเองเป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานด้านสืบสวน ส่วนในเรื่องสำนวนและข้อกฎหมายนั้นเป็น พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัตน์ รอง ผบช.น. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งการจะรื้อคดีมาทำใหม่หรือไม่อย่างไรจะต้องดูในเรื่องของข้อกฎหมายด้วยหากมีหลักฐานใหม่เพิ่มเติมก็สามารถทำได้แต่หากไม่มีก็ยังต้องคงสำนวนการสอบสวนไว้ตามเดิมที่มีการส่งฟ้องไปก่อนหน้านี้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือสั่งการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงมาว่าให้รื้อคดีสืบสวนสอบสวนใหม่แต่อย่างใดคงต้องรอดูความชัดเจนจากผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหากสั่งการมาก็พร้อมดำเนินการ
อดีตทนาย "เอกยุทธ" ระบุ "บอล" แฉทีมสังหารมี 4 คนเป็นกลุ่มคนมีสี มีฮาดดิสต์กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ชัดเจน พร้อมเปิดเผยในชั้นศาล
นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ อดีตทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เปิดเผยว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศจากรัฐบาลรักษาการ ทีมทนายความของตนมีโอกาสพูดคุยกับนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล ผู้ต้องหาในคดีฆ่านายเอกยุทธ หลายครั้ง ซึ่งนายสันติภาพ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือสังหารนายเอกยุทธ ตามที่เคยให้การไว้ แต่มีทีมสังหารซึ่งเป็นกลุ่มคนมีสีจำนวน 4 คน เป็นผู้ลงมือฆ่านายเอกยุทธ ส่วนนายสันติภาพทำหน้าที่เพียงผู้ชี้เป้า นายสุวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า สาเหตุที่ทำให้นายสันติภาพ เปิดโปงเรื่องนี้ เป็นเพราะทีมอุ้มฆ่าไม่จ่ายเงินค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ จากเดิมที่สัญญาว่าจะมอบค่าจ้างให้ 3 ล้านบาท ซึ่งมีการจ่ายเงินกันล่วงหน้าแล้ว 8 แสน และมีข้อตกลงกันว่าเงินส่วนที่เหลือจะจ่ายให้หลังงานเสร็จ แต่จนถึงปัจจุบัน นายสันติภาพยังไม่ได้รับเงินส่วนนั้น อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจึงไม่เกรงกลัวอันตรายที่จะตามมา "บอลบอกว่าทีมอุ้มฆ่าคุณเอกยุทธมี 4 คน ซึ่งเป็นคนมีสี ไม่รวมเขากับนายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือเบิ้ม โดยลงมือสังหารนายเอกยุทธ ตั้งแต่อยู่ภายในบ้านพักย่านทาวอินทาวด์ หลังจากอุ้มนายเอกยุทธมาจากร้านอาหาร โดยชนวนการอุ้มมาจากเรื่องกลุ่มสังหารต้องการบังคับเอาฮาดดิส ซึ่งเป็นความลับที่สำคัญที่คุณเอกยุทธมีอยู่" นายสุวัฒน์ กล่าว อดีตทนายความนายเอกยุทธ กล่าวด้วยว่า อยากให้ตำรวจรื้อคดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธขึ้นมาทำใหม่ เพื่อความกระจ่าง โดยนายสันติภาพมีหลักฐานสำคัญที่เก็บไว้อยู่คือฮาร์ดดิสต์เก็บข้อมูลของกล้องวงจรปิดบ้านของนายเอกยุทธ ซึ่งในนั้นมีภาพบุคคลที่เข้าไปฆ่านายเอกยุทธชัดเจน "บอลอ้างว่าเก็บฮาดดิส ของกล้องวงจรปิดที่บ้านคุณเอกยุทธไว้ ในฮาดดิสนั้นจะปรากฎบุคคลที่เข้าไปฆ่าเอกยุทธว่ามีใครบ้าง จำนวนกี่คน ฮาดดิสนั้นยังอยู่ จริงๆ ทีมสังหารไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าที่บ้าน แค่ต้องการสั่งสอน แต่ลงมือแรงไป จริงๆ แผนแรกจะอุ้มไปฆ่าที่อื่น แต่ลงมือหนักไปคุณเอกยุทธเลยเสียชีวิต ก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่ เอาศพไปทิ้งที่พัทลุง ซึ่งบอลเขายืนยันว่าฮาดดิสเขายังเก็บไว้ แม้กระทั่งสร้อยคอทองคำ พระเกชโย นาฬิกาโรเล็กซ์แพทตินัมทองคำขาว ก็อยู่ที่เขา ซึ่งคิดว่าถึงจุดหนึ่งบอลต้องเอามาเปิดเผยกับศาลเพื่อต้องเอาตัวรอด ซึ่งเมื่อหลักฐานนี้เปิดเผยความจริงก็จะปรากฎ" นายสุวัฒน์ กล่าว นายสุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ข้อมูลที่ได้จากการพูดคุยกับนายสันติภาพ สอดคล้องกับข้อสงสัยที่ตนตั้งข้อสงสัย 13 ประเด็นที่เคยยื่นให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ก่อนหน้านี้ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ตั้งแต่ต้น ซึ่งอยากให้มีการคลี่คลายเรื่องนี้ให้กระจ่าง แม้ตนจะถอนตัวจากกรณีแล้ว หลังจากทางญาติต้องการให้คดีจบ และไม่อยากให้มีการรื้อฟื้น เพราะมีคนขู่ที่จะฆ่าพวกเขา สำหรับ 13 ข้อสงสัยที่นายสุวัตร ตั้งไว้โดยสรุปมีดังนี้ คือ 1.เรื่องมูลเหตุจูงใจไม่น่าจะเป็นการชิงทรัพย์เพราะมีการนำทรัพย์สินมีค่าไปทิ้งน้ำ 2.พฤติการณ์ก่อเหตุคนร้ายน่าจะมีมากกว่า2คน  3.ไม่มีการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของนายสันติภาพ 4.นายเปี๊ยกที่นายสันติภาพอ้างถึงมีตัวตนหรือไม่ 5.ขอให้ตรวจสอบภาพเหตุการณ์จากบริษัทกล้องวงปิดที่ติดตั้งในบ้านนายเอกยุทธ 6.ให้ตรวจสอบบ้านพักที่นายสันติภาพอ้างว่าแวะพักระหว่างเดินทางไปที่จ.พัทลุง 7.ไม่เชื่อว่านายสันติภาพจะบีบคอนายเอกยุทธเสียชีวิตได้  8.ให้สอบปากคำนายสุทธิพงศ์เพิ่มในประเด็นใบหน้านายเอกยุทธว่ามีร่องรอยถูกทุบตีหรือไม่ 9.กระเป๋าหลุยส์ของนายเอกยุทธอยู่ที่ใด 10 อัณฑะของนายเอกยุทธบวมเพราะถูกทำร้ายหรือไม่ 11.กลุ่มชายต้องสงสัยที่ปากซอยประดิพัทธิ์มีจริงหรือไม่ 12 ในรถตู้โฟล์กมีลายพิมพ์นิ้วมือหรือดีเอ็นเอบุคคลอื่นหรือไม่ และ 13 ให้หาเสื้อผ้าที่นายเอกยุทธสวมใส่ในวันเกิดเหตุให้พบและตรวจสอบให้ละเอียด

logoline