นศ.เวียดนาม อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

ความคืบหน้าเหตุรถตู้คณะนักศึกษาเวียดนามเตรียมเดินทางไปเข้าค่าย จ.หนองบัวลำภู ผ่าน จ.ชัยภูมิเกิดอุบัติเหตุพุ่งข้ามเลนชนรถพ่วง 18 ล้อไฟลุกท่วม จนมีผู้เสียชีวิตคาที 13 ราย และได้บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย ถูกนำส่ง รพ.ชัยภูมิ 1 ราย และส่งรพ.ขอนแก่น 2 ราย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
  ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย. ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ชื่อ นายเหงียน  ฮู้มิ้ง อายุ 20 ปี นักศึกษาชาวเวียดนาม ถูกนำส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ มาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น แพทย์ได้ช่วยผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสที่ขาซ้ายหัก 2 ท่อน และขาขวาอีก 1 ท่อน จนอาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว และถูกนำตัวมาคอยดูแลอาการหลังผ่าตัดเพิ่มเติมท่ามกลางการดูแลของแพทย์หมอพยาบาลอย่างใกล้ชิดเป็นอย่างดี โดยอยู่ที่เตียง 18 ตึกศัลกรรมกระดูก ชั้น 1 โรงพยาบาลชัยภูมิรักษา และเตรียมจะให้ออกโรงพยาบาลและกลับบ้านได้ภายในไม่เกินอีก 5 วันต่อไป ซึ่งยังมีญาติเพื่อนนักศึกษาชาวเวียดนามด้วยกัน และบาทหลวง และ ซิสเตอร์ มาช่วยเฝ้าดูแลอาการและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
  ขณะที่ด้านการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่เป็นชาวเวียดนามทั้งหมด บาทหลวงเกรียงไกร  ยิ่งยง เจ้าอาวาสวัดนักบุญเปาโลกลับใจ(วัดโบสต์คาทอลิค) อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในส่วนผู้บาดเจ็บชาวเวียดนามที่ จ.ชัยภูมิ เครือข่ายนิกายคาทอลิคทั่วประเทศประจำประเทศต่างๆได้มอบหมายให้ตนเองมาช่วยติดตามช่วยเหลือดูแลอาการเด็กผู้บาดเจ็บทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลใกล้ชิดไว้ก่อน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาครอบครอบทุกคนต่อไป ซึ่งเบื้องต้นการช่วยเหลือจากทางบริษัทเจ้าของรถตู้ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด คงต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานงานเพิ่มเติมอยู่ในขณะนี้ ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรได้บ้างเพราะส่วนใหญ่นักศึกษาชาวเวียดนามทั้งหมด มาในนามนักท่องเที่ยวก็ต้องดูเรื่องเกี่ยวกับข้อกฏหมายว่าน่าจะมีแนวทางมาช่วยเยียวยาเพิ่มเติมอย่างไรต่อไปได้บ้าง
  ด้านพ.ต.อ.พนัส  บุญย่านยาว ผกก.สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิท้องที่เกิดเหตุเจ้าของคดี กล่าวว่า เรื่องการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเด็กชาวเวียดนามทั้งหมด ตอนนี้รูปคดีกับรถพ่วงก็เป็นผู้เสียหายคู่กรณีกับเจ้าของรถตู้ด้วยเช่นกัน เพราะรถตู้เองขับไปข้ามเลนไปพุ่งชนรถพ่วง คนผิดก็จะตกอยู่กับฝ่ายรถตู้ ที่เจ้าของรถตู้คนขับก็มาเสียชีวิตพร้อมกันในที่เกิดเหตุครั้งนี้เช่นกัน การช่วยเหลือต่อไปต้องเป็นเรื่องของบริษัทประกันจากรถตู้ว่ามีหรือไม่ เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาชาวต่างชาติที่เป็นชาวเวียดนามและมาในนามนักท่องเที่ยวทั้งหมดต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบว่ามีบริษัทประกันของรถตู้รายนี้หรือไม่ เพื่อจะได้เร่งให้การช่วยเหลือ ส่วนศพทั้งหมดขณะนี้ยังต้องรอขั้นตอนผลพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมด 13 รายเป็นใครมาจากไหนบ้างก่อน เพื่อที่จะได้ติดต่อกงสุลเวียดนามให้ญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาของแต่ละคนต่อไป