เรือน้ำมันไทยที่ถูกปล้น กลับเข้าฝั่งแล้ว

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.)ได้รับแจ้งจาก บริษัท Thai International Tankerว่า เรืออรพิน 4 ได้จอดทอดสมอบริเวณพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 1 มิ.ย. ทั้งนี้เรือลำดังกล่าว ถูกกลุ่มโจรสลัดขึ้นยึดเรือ และทำลายเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด ปล้นสินค้าบนเรือคือน้ำดีเซล  จากนั้นปล่อยเรือให้เหลือน้ำมันเท่าที่สามารถเดินทางกลับเข้าฝั่งได้ โดยลูกเรือทั้งหมดปลอดภัย  ก่อนหน้านี้ ทางศูนย์รายงานการปล้นสะดมทางทะเล สำนักพาณิชย์นาวีนานาชาติ (ไอทีบี) ในมาเลเซีย เปิดเผยว่า เรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว ขาดการติดต่อกับบริษัทเจ้าของเรือ  และไม่ได้เข้าจอดที่เมืองปนติอานัก ในจ.กาลิมันตันตะวันตก ของอินโดนีเซีย  ตามกำหนดในวันที่ 29 พ.ค. ล่าสุดเมื่อเวลา 10 . 00 น. ของวันที่ 2 มิ.ย. จึงมีการยืนยันว่า เรือลำนี้ได้จอดทอดสมอในเขต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.วิริศสิริภ์ ลีละสิริ ผู้กำกับการ  5  กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี   กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นมัสการ นิลกำแหง สว.สถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 5  กองบังคับการตำรวจน้ำ  ไปตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน อรพิน 4 ที่บรรทุกน้ำมันดีเซล จอดอยู่ห่างจากสะพานปลาอ่าวอุดม  หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี   ครึ่งไมล์ทะเล หลังถูกโจรสลัด บุกปล้นน้ำมันดีเซล ไปโดยมีเรือเจ้าท่า 802 ควบคุมอยู่  สำหรับเรืออรพิน 4 เป็นเรือรับจ้างขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ โดยก่อนเกิดเหตุได้รับจ้างจาก บริษัทไทย ปิโตรเลียม แท็งเกอร์ จำกัด ให้นำน้ำมัน ดีเซล จำนวน 3 ล้านลิตร จากประเทศสิงค์โปร์ ไปส่งที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีนายทิวา สามัน อายุ 66 ปี เป็นนายเรือ พร้อมด้วย ลูกเรือ  13 คน  นายทิวา สามัน  นายเรือ  กล่าวว่า   ได้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ไทย ปิโตรเลียม แท็งเกอร์ จำกัด ให้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อำพล คล้ายวงษ์ ร้อยเวร สภ.แหลมฉบัง   จ.ชลบุรี  โดยนายทิวา ให้การว่า  02.00 น. ของวันที่ 28 พ.ค. ระหว่างขนส่งน้ำมัน บริเวณน่านน้ำสากล ได้มีกลุ่มโจรสลัด 8-10 คน พูดภาษามลายู คาดว่าจะเป็นชาวมาเลเซียหรืออินโดนีเซีย  พร้อมอาวุธครบมือ นำเรือเล็กมาเทียบท่า  เพื่อควบคุมเรืออรพิน 4 จากนั้น จึงคนร้ายจึงประสานให้เรือขนาดใหญ่ เข้ามาสมทบและสูบน้ำมันดีเซลในเรืออรพิน 4 ออกไป ทั้งยังขโมยทรัพย์สินของลูกเรือ 13 คน  และทำลายเครื่องมือสื่อสารเสียหาย   โดยที่ไม่ได้ทำอันตรายกับผู้ที่อยู่บนเรือ จากนั้นจึงได้หลบหนีไป