เจาะอดีตแชมป์ฟุตบอลโลก "ทีมชาติสเปน"

แต่หลังจากโดนบราซิลถล่ม 3-0 ในนัดชิงชนะเลิศคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ เมื่อปี ที่แล้ว จึงเกิดคำถามที่ว่า สเปน มีดีพอจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการลูกหนังโลกได้หรือไม่ ที่ผ่านมาอาจจะเคยมีทีมที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ 3 ทัวร์นาเม้นต์ติดต่อกันมาแล้ว แต่ยังไม่เคยมีทีมไหนเคยป้องแชมป์โลก และแชมป์ยูโร ใน 4 ทัวร์นาเม้นต์ติดต่อกันมาก่อน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน นับตั้งแต่ยูโร 2008 มาถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 6 ปีมาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของ สเปน อยู่ที่การยืนระยะให้ได้ กระทิงดุ ชุดนี้ยังคงมี บิเซนเต เดล บอสเก กุนซือที่นำทีมคว้าแชมป์โลก 2010 และแชมป์ยุโรปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และนักเตะในทีมก็ยังเป็นหน้าเดิมๆ ซึ่งในศึกยูโรที่ โปแลนด์ และ ยูเครน   เดล บอสเก เคยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้กองหน้าอย่าง เฟอร์นันโด ตอร์เรส หรือว่า เฟอร์นันโด ยอเรนเต จะฟอร์มตกไป แต่ก็สามารถจัดทีมเก็บผลการแข่งขันได้โดยไม่ต้องมีกองหน้าอาชีพลงสนาม นั่นคือความยอดเยี่ยมของฟุตบอล ติกี-ทาก้า ที่มีรูปแบบมาจากบาร์เซโลนา ส่วนประกอบของทีมชุดปัจจุบัน ยังเป็นส่วนประกอบของ บาร์เซโลนา และ รีล มาดริด สองทีมยักษ์ใหญ่ของสเปนอยู่เหมือนเดิม โดยแดนกลางเมื่อมี อันเดรส อิเนสตา กับ ชาบี เอร์นันเดซ ลงมาเป็นหลักแล้ว ยังดูดีกว่าบรรดาทีมเต็งหลายๆทีม และถึงจะมีบางคนโรยรา หรือฟอร์มตกลงไป แต่ สเปน ก็ยังเป็นทีมที่หาผู้เล่นเข้ามาทดแทนได้ไม่ลำบาก เช่นการเอา ดีเอโก คอสตา เปลี่ยนสัญชาติจากบราซิลเข้ามาสู่ทีมเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ การอยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ ฮอลแลนด์, ชิลี และ ออสเตรเลีย ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับแชมป์เก่าในการเข้ารอบ 2 แต่การลงสนามทั้ง 3 นัด จำเป็นต้องเน้นตั้งแต่เกมแรกกับ ฮอลแลนด์ เมื่อจำต้องเป็นแชมป์กลุ่มให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปหักกับเจ้าภาพ บราซิล ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย  สเปน เพิ่งพบกับ ฮอลแลนด์ มาในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 สถิติโดยรวมสุดสูสี ชนะกันมาทีมละ 4 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง ขณะการพบกับชิลี ทำผลงานได้เหนือกว่ามากชนะถึง 8 นัดในการพบกัน 10 นัด ส่วน ออสเตรเลีย นั้นครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมมีโอกาสได้พบกัน เกมกับ ฮอลแลนด์ ถือว่าเป็นเกมที่สำคัญที่สุด หากว่าทีมกระทิงดุไม่พลาดถึงขั้นแพ้ ก็น่าจะเข้าป้ายเป็นแชมป์กลุ่ม และไม่ต้องไปเจอกับ บราซิล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้เส้นทางมีลุ้นถึงขั้นกลับไปป้องกันแชมป์ในนัดชิงชนะเลิศ และจะเป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่าฟุตบอลแบบ ติกี-ทาก้า ยังใช้ได้ในยุคนี้    สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของลูกหนังโลก รวมทั้งเป็นทีมที่ 2 ต่อจากบราซิลที่ครองแชมป์โลก 2 สมัยติดต่อกันโปรแกรมการแข่งขันรอบแรกของสเปน วันที่ คู่แข่ง เมือง เวลา (ไทย)13 มิ.ย. ฮอลแลนด์ ซัลวาดอร์ 02.00 น.18 มิ.ย. ชิลี ริโอ เดอ จาไนโร 02.00 น.23 มิ.ย. ออสเตรเลีย คูริติบา 23.00 น.