รวบช่างสี อุ้มเสี่ยค้าส่งซิลิโคนเรียกค่าไถ่

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 มีนาคม พล.ต.ต.ธัชชัย หงส์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุฐชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ รอง.ผกก.สสฯ พร้อมกำลัง ร่วมกันแถลงจับกุมนายเด่นสกุล กล่ำสมุทร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157/217 หมู่ 5 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาคดีปล้นอุ้มเสียซิลิโคน พร้อมลูกสาววัย 12 เรียกค่าไถ่ พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กัญญาอัดแท่ง 1 แท่ง สมุดบัญชีธนาคารต่าง ๆ จำนวน 5 เล่ม และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเท่าดำ ทะเบียน 2 กล 3016 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านเฟื้องฟ้า 10 ซอยมังกรนาคดี ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ  พ.ต.ท.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ รอง ผกก.สภ.บางปู สมุทรปราการ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้ง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ติดตามเหยื่อตั้งแต่หน้าบ้านของเหยื่อ ตลอดเส้นทาง จึงคาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักผู้ตายเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แกะรอยจากโทรศัพท์ของคนร้ายที่ใช้โทรเข้ามาหาภรรยาของเหยื่อ กระทั่งพบว่ามีความเชื่อมโยงกับ น.ส.อัญชลีหรือกล้วย สวนส้ม อายุ 33 ปี ซึ่งเคยเป็นลูกน้องเก่าผู้เสียหาย ก่อนวางกำลังเฝ้าติดตามกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยลักษณะคล้ายจากภาพวงจรปิด ที่คนร้ายใช้ติดตามเหยื่อ จึงได้เข้าตรวจค้น พบนายเด่นสกุลหรือเด่น กล่ำสมุทร อายุ 26 ปี อยู่ภายในบ้านจากการตรวจค้นได้พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 อยู่ภายในบ้าน และรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ จอดอยู่หน้าบ้าน เลขที่ 157/2/17 หมู่ 5 หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 3 กม. จึงคุมตัวมาทำการสอบสวน นายเด่นสกุล ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนและเพื่อนอีก 3 คนคือ น.ส.อัญชลี หรือกล้วย สวนส้ม อายุ 33 ปี, นายเอกสิทธิ์หรือบี คล้ามอ่วม อายุ 33 ปี, สามี น.ส.อัญชลี และนายฐิติวัชร์หรือปุ้ม ทวีวุฒิวรานนท์ อายุ 23 ปี, ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ได้ร่วมกันวางแผนอุ้มตัวนายเอกภาพ ซึ่งเป็นนายจ้างเก่าของ น.ส.อัญชลี เรียกค่าไถ่เพราะเห็นว่ามีฐานะดี วันเกิดเหตุตนและเพื่อนทั้งหมด ได้ขับรถติดตามผู้เสียหายตั้งแต่บ้านของผู้เสียหายจากหมู่บ้านลลิล ซอยมังกร-นาคดี กระทั่งสบโอกาสขณะที่ผู้เสียหายมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางเปลี่ยว ตนกับนายฐิติวัชร์ และนายเอกสิทธิ์ จึงเข้าประชิดตัวพร้อมใช้อาวุธปืนจี้จับตัวผู้เสียหายไป เรียกค่าไถ่ จนกระทั้งภรรยาผู้เสียโอนเงินมาให้ ตนจึงได้ปล่อยตัวผู้เสียหายไป ส่วนเงินที่ได้มานายเอกสิทธิ์ เป็นคนเก็บไว้ทั้งหมด ยังไม่ได้แบ่งกัน หลังข่าวถูกนำเสนอนายเอกสิทธิ์ ได้พา น.ส.อัญชลี หลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว มีอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ และจะได้ติดตามจับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป