ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจ.สงขลา รวมกับตำรวจภูธร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา นำกำลังเข้าทำการช่วยเหลือ ชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง กว่า 200 คน ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างด้าวอาศัยอยู่ในป่าสวนยางพารา บนเนินเขาสูง ในพื้นที่บ้านคลองต่อ อ.รัตภูมิ เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่ามีชาวต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้นำชาวต่างด้าวทั้งหมด ซึ่งมากันเป็นครอบครัว มีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย มาพักพิงที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 6 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมหาอาหาร- น้ำดื่ม ให้ เนื่องจากทั้งหมดมีสภาพอิดโรย บางรายมีอาการป่วย อย่างไรก็ตามต่างด้าวที่ช่วยเหลือมาได้ในครั้งนี้ แตกต่างไปจากชาวโรฮิงยา โดยลักษณะแล้วมีฐานะทางเศรษฐกิจ โดยดูได้จากการแต่งกาย และใช้โทรศัพท์มือถือที่ทันสมัย พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นต่างด้าวเหล่านี้ทราบเพียงว่าเป็นชาวตุรกี ส่วนเส้นทางการเดินทางเข้ามาในไทยและปลายทางที่จะไปนั้น ยังคงต้องรอหาล่ามที่ใช้ภาษาตุรกี เนื่องจาก ชาวตุรกีเหล่านี้ พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก และขณะนี้ได้ประสานไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือ ให้เข้ามาดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 6 กล่าวว่า ต่างด้าวทั้งหมด มีด้วยกัน 220 คน เป็นชาย 78 คน หญิง 60 คน เด็ก 82 คน ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นคนประเทศใด เดินทางมาอย่างไร ต้องรอสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆที่แสดงถึงการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในป่าสวนยางพาราบนภูเขา ขึ้นไปทางพื้นที่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ติดกับรอยต่อ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยบุคคลทั้งหมดนี้เป็นชาวมุสลิม ที่เบื้องต้นอ้างว่าเป็นชาวตุรกี เพราะฉะนั้นรายละเอียดและความชัดเจนทั้งหมด คงต้องรอการประสานล่ามที่สามารถพูดภาษาตุรกีได้เข้ามาช่วยในการสื่อสาร เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้เชื่อว่าบุคคลทั้งหมดนี้ น่าจะมีนายหน้าเป็นผู้ลักลอบนำพาเข้ามาและเอาเข้ามาหลบซ่อนไว้ในพื้นที่ป่าดังกล่าว เพื่อเตรียมส่งไปยังประเทศที่ 3 เป็นส่วนหนึ่งในขบวนการค้ามนุษย์