จับ 2 ผู้ต้องหายึดยาไอซ์ 10 กก.มูลค่า 30 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.พ. พล.ต.ต ชำนาญ รวดเร็ว รองผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 10 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ที่นำเข้าด้วยการบรรจุห่อชา เงินสดล่อซื้อ จำนวน 9 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง พร้อมผู้ต้องหา 2 คน คือ น.ส.หอม อุ่นแสง อายุ 29 ปี เป็นบุคคลที่ไม่มีสาธารณะทางทะเบียน อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 2 ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนายคือ ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี สัญชาติพม่า อยู่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ บ้านสันทราาย เมืองท่าขี้เหล็ก จ.เชียงตุง ประเทศพม่า  สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวนการกระทำความผิดของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติเชื่อมโยงกับคณะบุคคลแนวชายแดนพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) และตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เจรจาซื้อขายยาเสพติด โดยตกลงทำการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีผู้สั่งการอยู่ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยสั่งการให้ผู้ร่วมขบวนการนำของกลางยาไอซ์ 10 กิโลกรัมมาส่งมอบตามที่หมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่คนร้ายที่มาส่งยาเสพติดอาศัยความชำนาญหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการติดตามตัวผู้ส่งยาเสพติด และสามารถจับกุมได้ที่อำเภอแม่สาย  พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายภารกิจ จากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงสามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดได้ ทั้งนี้พื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นพื้นที่เป้าหมายที่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้เป็นแหล่งพักยา ขณะที่จากการสอบสวน นายคือ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ติดต่อในการซื้อขายจริง ส่วนยาเสพติดนั้นอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมว่าเป็นเครือข่ายของพันโทยี่เซ หรือไม่ และได้รับเงินเป็นค่าจ้างในการติดต่อประมาณครั้งละ 20,000 บาท ส่วนน.ส.หอม ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ติดต่อซื้อขายจริง และหาสามารถส่งขายยาเสพติดได้สำเร็จ ก็จะได้รับเงินค่าจ้าง 500,000-600,000 บาท  ทั้งนี้ยาไอซ์ดังกล่าวมีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าขายในประเทศจะมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่หากส่งออกไปต่างประเทศมูลค่าจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่วนการดำเนินการในขั้นต่อไปอยู่ระหว่างการขยายผลการดำเนินการ