รวบอีกโยนโทรศัพท์+ซิมการ์ด เข้าเรือนจำ

เผยในรอบเดือน ก.พ.เดือนเดียวจับกุมผู้ต้องหาโยนสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำแล้ว 4 ราย ยึดโทรศัพท์มือถือได้มากกว่า 40 เครื่อง พร้อมทั้งยาบ้า และยาไอซ์ สาเหตุเพราะถูกทางเรือนภายในเรือนจำถูกกวาดล้างอย่างหนัก  เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ก.พ. พ.ต.อ.พลอย  พิมพิสาร ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้จับกุมตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาโยนสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำกลางนครราชสีมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้คุมเรือนจำว่า พบชายต้องสงสัยเดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณข้างกำแพงด้านหลังของเรือนจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบ และพบนายเอกำลังว่ายน้ำอยู่ในคลองที่อยู่บริเวณด้านหลังของเรือนจำ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว พร้อมทั้งขอตรวจค้นภายในถุงผ้าที่นายเอถืออยู่ และพบว่าภายในถุงผ้ามี โทรศัพท์มือถือจำนวน 24 เครื่อง พร้อมทั้งซิมการ์ด 16 อัน บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกห่อด้วยฟองน้ำกันกระแทก และพันด้วยกระดาษกาวกันน้ำอย่างดี  จากการสอบสวนนายเอให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนชายที่มีฉายาว่า แฝด หน้าลาย (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ในราคา 5,000 บาท ให้นำโทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดของกลางโยนเข้าไปให้ผู้ต้องขังชายคนหนึ่งที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการโยนโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำในครั้งนี้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2557 เพียงเดือนเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาขณะกำลังเตรียมโยนโทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำกลางนครราชสีมา ได้มากถึง 4 ราย ยึดโทรศัพท์ได้รวมมากกว่า 40 เครื่อง พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริม ยาบ้า และยาไอซ์ ซึ่งสาเหตุของการที่มีการพยายามนำโทรศัพท์ และสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำกลางนครราชสีมาเกิดขึ้นบ่อยในระยะนี้ เพราะทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้มีการตรวจกวาดล้างอย่างหนัก และตรวจค้นภายในเรือนจำบ่อยครั้ง ทำให้กลุ่มผู้ต้องขังหลายคนมีความพยายามที่จะใช้ว่าจ้างเครือข่ายของตัวเองให้โยนสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำ.