svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

เชลซีปึ้กรับทอฟฟี ข่มไม่แพ้คารัง20ปี

21 กุมภาพันธ์ 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี สุดปึ้กพร้อมต้อนรับ "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.นี้ แถมยังพกสถิติข่มไม่เคยแพ้คารังมานานถึง 20 ปี

ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เตรียมจัดชุดใหญ่ต้อนรับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ส่วน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ส่อปรับทัพดวลแข้ง "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์    ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ มีโปรแกรมฟาดแข้ง 7 คู่ เริ่มจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี จ่าฝูงที่ไม่แพ้มาแล้วถึง 11 เกม แข่ง 26 นัด มี 57 แต้ม เตรียมเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 6 แข่ง 25 นัด มี 45 แต้ม ในเวลา 19.45 น. เกมนี้ ชูเซ มูรินโญ กุนซือเจ้าถิ่นตั้งเป้าหวังเก็บชัยให้ได้ เพื่อรักษาตำแหน่งทีมนำบนหัวตารางคะแนนต่อไป จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน เพราะไม่มีปัญหาแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ และมีลุ้นได้ตัว "เจที" จอห์น เทอร์รี ที่เพิ่งหายเดี้ยงพร้อมเรียกความฟิตกลับมาช่วยคุมแนวรับได้อีกครั้ง คาดว่า เชลซี น่าจะมีการปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 โดย แฟรงค์ แลมพาร์ด อาจจะได้กลับมายืนคุมแดนกลางร่วมกับ รามิเรส และ เนมันยา มาติช ส่วนแนวรุก ออสการ์ น่าจะได้กลับมาประสานงานร่วมกับ เอเดน ฮาซาร์ และ ซามูเอล เอโต ขณะที่แนวรับน่าจะยึดชุดเดิมที่ประกอบไปด้วย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์ และ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา นอกจากนี้เจ้าถิ่นยังพกสถิติข่ม เอฟเวอร์ตัน เพราะไม่แพ้ทีมเยือนคาบ้านของตัวเองมานานถึง 20 ปีแล้ว นับตั้งแต่หนสุดท้ายที่เป็นฝ่ายแพ้ 0-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1994 ฝั่งทีมเยือนของกุนซือ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ยังคงไร้เงา โรเมลู ลูกากู กองหน้าดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจาก เชลซี เพราะยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ จึงทำให้ ลาซินา ตราโอเร อาจได้ลงไปยืนประสานเกมรุกในแผงแดนหน้าร่วมกับ เควิน มิรัลลาส และ ไอเดน แม็คเกียดี ส่วนแข้งหลักรายอื่นๆ สามารถลงเล่นเป็นตัวจริงได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ทิม ฮาวเวิร์ด, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล จากีลกา, แกเรธ แบร์รี และ สตีเวน พีนาร์ ขณะที่ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมอันดับ 2 แข่ง 26 นัด มี 56 แต้ม จะเปิดรังเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ต้อนรับ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 18 แข่ง 25 นัด มี 24 แต้ม ในเวลา 22.00 น. นัดนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเจ้าถิ่นยังคงหมดสิทธิใช้งาน โธมัส แฟร์มาเลน, อารอน แรมซีย์ และ ธีโอ วัลคอตต์ ที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่จะได้ มิเกล อาร์เตตา ที่ติดโทษแบนในเกมสโมสรยุโรปพร้อมคัมแบ็กกลับมาลงสนามร่วมกับพวกแข้งหลักอย่าง แจ็ค วิลเชียร์, ซานติ กาซอร์ลา, เมซุต โอซิล และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์  ด้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 แข่ง 25 นัด มี 54 แต้ม พร้อมเปิดรังอิติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ทีมอันดับ 14 แข่ง 26 นัด มี 27 แต้ม ในเวลา 22.00 น. เกมนี้ มานูเอล เปลเยกรินี กุนซือเจ้าบ้านขาดตัวหลักเพียงแค่ เซอร์จิโอ อเกโร ดาวยิงตัวเก่งที่ยังได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน คาดว่า เอดิน เซโก อาจจะได้กลับมายืนล่าตาข่ายคู่กับ อัลวาโร เนเกรโด ส่วนแดนกลางน่าจะเป็นหน้าที่ของ 4 ประสานอย่าง เฆซุส นาบาส, แฟร์นันดินโญ, ยาย่า ตูเร และ ดาวิด ซิลวา เหมือนเดิม  ขณะที่ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ที่ไม่ชนะใครมาแล้วถึง 3 นัด แข่ง 26 นัด มี 42 แต้ม ต้องยกพลบุกไปเยือน "อินทรีผงาด" คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 15 แข่ง 25 นัด มี 26 แต้ม ในเวลา 00.30 น. นัดนี้ เดวิด มอยส์ กุนซือทีมเยือนไม่มีปัญหาแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมส่งพวกดาวดังลงสนามเหมือนเดิม โดยเฉพาะ ฆวน มาตา, เวย์น รูนีย์ และ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่จะได้เป็น 3 ประสานในแนวรุกต่อไป ส่วนโปรแกรมคู่อื่นลงเตะเวลา 22.00 น. คาร์ดิฟฟ์ (19) พบ ฮัลล์ (13), เวสต์บรอมวิช (17) พบ ฟูแล่ม (20), เวสต์แฮม (11) พบ เซาแธมป์ตัน (8)

logoline