โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามอย่างน้ำตก “หวงกั่วซู่” ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังขึ้นแท่นเป็นน้ำตกขนาดใหญ่อันดับ3 ของโลก สำหรับทริปพิชิต “หวงกั่วซู” น้ำตกใหญ่สุดแดนมังกร จึงถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน และชาวต่างชาติ เพราะเป็นน้ำตกที่ไม่เพียงแต่สามารถชมวิวได้ทั้งจากทั้งด้านหน้า ที่มีความกว้าง 101 เมตร และสูงถึง 77.8 เมตร และยังสามารถเดินลัดเลาะสันเขาไปชมความมหัศจรรย์หลังม่านของน้ำตกได้อีกด้วย โดยความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความสูง แต่พลังของเสียงน้ำตกจะดังไกลมาก และบางวันยังมีสายรุ้งบนเหนือน้ำด้านล่างของน้ำตก จึงถือเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวที่ใครมาเมืองกุ้ยหยางแล้วต้องไม่พลาดการไปเยือน
และที่พลาดไม่ได้คือไฮไลท์ภายในอุทยานหวงกั่วซู นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเคเบิลคาร์ ไปชมสะพานเทียนซิงเฉียว หรือเรียกว่าสะพานข้ามดวงดาว ธรรมชาติของที่นี่จะพบเห็นสวนป่าหิน และเห็นความมหัศจรรย์ของหินก้อนสะสมหลายร้อยปี และเมื่อเข้าสู่ถ้ำเทียนเฉียว โดยนักท่องเที่ยวจะเดินลัดเลาะตามเส้นทางเข้าไปภายในตัวถ้ำที่มีการประดับแสงไฟไว้ตลอดเส้นทาง ระหว่างทางจะได้ชมหินงอกรูปทรงต่าง ๆมีอายุหลายหมื่นปีให้ชมอย่างสวยงาม
มนต์เสน่ห์ของเมืองกุ้ยหยาง ยังมีความโดดเด่นในด้านวัฒนธรรมการกินที่ไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะเมนูหม้อไฟปลาซุปสีแดง หรือ เรียกกันคุ้นปากว่า “แกงส้มปลา” ที่นำเอามะเขือเทศป่ามาหมักผสมผสานกับเครื่องเทศนานาชนิด และเหล้าพื้นถิ่น ซุปที่ปรุงออกมาจะมีรสชาติออกเปรี้ยวและเผ็ด มีปลาจากแม่น้ำหนานหนิงตัวใหญ่เสริฟ์แบบสด ๆโดยมีน้ำจิ้มที่เป็นส่วนผสมของสมุนไพรที่ลดความร้อนในร่างกายมากินคู่กัน จึงถือเป็นเมนูมหานิยมที่บ่อยครั้งเมื่อมาเยือนกุ้ยหยาง มักจะถูกยกระดับให้เป็นเมนูอาหารประจำเมือง
อีกหนึ่งเมนูที่มากุ้ยหยางแล้วต้องลองชิม “ผัดไก่หม่าล่าทรงเครื่อง” หน้าตาของเมนูนี้จะดูอลังการมาก เสริฟ์บนภาชนะชามขนาดใหญ่ ที่นำเอาไก่มาผัดกับเห็ดหอม มันฝรั่ง พริก กระเทียม ฟองเต้าหู้ และเครื่องเทศ ที่สำคัญ เมืองกุ้ยหยาง ยังเป็นฐานผลิตเหล้าตระกูลเหมา ไถ่ สุราจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก ในมื้ออาหารเย็นจึงมักถูกเสริฟ์ให้ชิมพร้อม ๆกัน ส่วนเมนูของหวานก็ละมุนลิ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเหนียวฟักทอง และบัวลอยทุเรียนน้ำใส ขณะที่ผลไม้สด ๆอย่างเชอรี่ ลูกพีช เบย์เบอรี่ และส้ม สด ๆกลายเป็นสีสันของเมืองนี้
ในยามพลบค่ำของเมืองกุ้ยหยาง โบราณสถานที่สำคัญยุคสมัยราชวงศ์หมิง คือ อาคารทรงจีนโบราณ ที่เรียกกันว่า “หอเจี่ยซิ่ว” ตั้งอยู่บนแม่น้ำหนานหมิง ถือเป็นอีกจุดหมายปลางทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพราะถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองกุ้ยหยาง สามารถรับชมความสวยงามได้ทั้งกลางวัน ขณะที่ช่วงกลางคืนจะมีการประดับประดาแสงสีเสียง ชาวจีนแห่งเมืองกุ้ยหยางมักจะชอบมาเดินเล่นริมแม่น้ำ หากมองไปทางขวาของหอเจี่ยซิ่ว จะเห็นฉากหลังเป็นสะพาน และสภาพเมืองโบราณที่มีเสน่ห์ของเมืองนี้
ภาพ -จักรินทร์ นมนาน
ข่าว-สกาวรัตน์ ศิริมา