svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

AI Prompts ทำลายทักษะการคิด? งานวิจัยเผยสมองทำงานน้อยลงเมื่อใช้ AI

เจาะลึกผลวิจัยจาก MIT และ Microsoft เตือนการใช้ AI ช่วยทำงานอาจทำสมองขี้เกียจและลดทักษะการแก้ปัญหา แนะใช้ AI เป็น "ติวเตอร์" แทน "เครื่องจักรหาคำตอบ" เพื่อรักษาทักษะการคิดวิเคราะห์

KEY

POINTS

  • งานวิจัยจาก MIT พบว่าสมองทำงานน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้ AI ช่วยเขียนงาน และยังส่งผลให้ความสามารถในการจดจำเนื้อหาลดลง
  • การพึ่งพาและเชื่อมั่นใน AI มากเกินไปจะลดทอนความพยายามในการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) ของผู้ใช้งาน
  • ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยขาดการไตร่ตรองในระยะยาวอาจนำไปสู่ "ภาวะสมองฝ่อทางปัญญา" ซึ่งทำให้ทักษะการแก้ปัญหาด้วยตนเองเสื่อมถอย

ในยุคที่ใครๆ ก็ใช้ AI ช่วยร่างบทความ วิเคราะห์ข้อมูล หรือตรวจทานจดหมายสมัครงาน ผู้เชี่ยวชาญเริ่มแสดงความกังวลว่า การมอบหมายงานสำคัญให้ปัญญาประดิษฐ์ทำแทน อาจส่งผลเสียต่อระบบความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาของมนุษย์ในระยะยาว

สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ได้เผยแพร่งานวิจัยล่าสุดในปี 2025 โดยใช้เครื่อง EEG บันทึกคลื่นสมองของผู้เข้าร่วมทดลอง พบว่ากลุ่มที่ใช้ ChatGPT ช่วยเขียนเรียงความ มีกิจกรรมในเครือข่ายสมองที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลทางปัญญา (Cognitive Processing) "ลดลงอย่างเห็นได้ชัด" เมื่อเทียบกับกลุ่มที่เขียนด้วยตัวเอง นอกจากนี้กลุ่มที่ใช้ AI ยังจำเนื้อหาที่ตัวเองส่งไปไม่ได้ดีเท่ากับกลุ่มที่เขียนเองอีกด้วย

งานวิจัยชี้ "ความมั่นใจใน AI" ลดทอนการคิดวิเคราะห์

ไม่ใช่แค่ในโรงเรียน แต่ในระดับคนทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ร่วมกับ Microsoft ได้สำรวจคนทำงานออฟฟิศกว่า 300 คน พบว่ายิ่งผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นในความสามารถของ AI มากเท่าไหร่ ความพยายามในการ "คิดวิเคราะห์" (Critical Thinking) ของพวกเขาก็จะยิ่งลดลงตามไปด้วย

งานวิจัยระบุว่า แม้ Generative AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง แต่หากพึ่งพามากเกินไปจะนำไปสู่ภาวะ Long-term Overreliance หรือการพึ่งพาเครื่องมือจนขาดทักษะการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งศาสตราจารย์ เวย์น โฮล์มส์ จาก UCL เรียกภาวะนี้ว่า "ภาวะสมองฝ่อทางปัญญา" (Cognitive Atrophy) ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในกลุ่มรังสีแพทย์ที่ใช้ AI ช่วยอ่านผลเอกซเรย์จนขาดความแม่นยำในการวินิจฉัยด้วยตัวเอง

ใช้ AI อย่างไรไม่ให้เสียทักษะ?

อย่างไรก็ตาม AI ไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป หากใช้อย่างถูกวิธี เจย์นา เดวานี จาก OpenAI แนะนำว่านักเรียนและคนทำงานไม่ควรใช้ ChatGPT เพื่อ "จ้างงานนอก" (Outsource) แต่ควรใช้ในฐานะ "ติวเตอร์ส่วนตัว" โดยการตั้งคำถามเพื่อให้ AI ช่วยแตกย่อยปัญหาให้เข้าใจง่ายขึ้น แทนที่จะขอคำตอบสุดท้ายในทันที

สรุปข้อควรระวังในการใช้ AI

  • ตรวจสอบผลลัพธ์เสมอ: อย่าเชื่อในคำตอบที่ AI มอบให้โดยปราศจากการตรวจสอบแหล่งข้อมูล
  • ทำความเข้าใจเหตุผล: ฝึกตั้งคำถามถึงที่มาของคำตอบเพื่อให้สมองได้ประมวลผลตาม
  • กำหนดขอบเขต: ใช้ AI ช่วยในการระดมสมองหรือวางโครงสร้าง แต่อย่าให้ AI ทำงานสร้างสรรค์หรืองานวิเคราะห์แทนทั้งหมด

ในท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จาก AI อาจจะดูสมบูรณ์แบบ แต่หากผู้สร้างผลลัพธ์นั้นเข้าใจเนื้อหาน้อยลง นั่นอาจหมายความว่าเรากำลังแลกเปลี่ยน "ทักษะการเรียนรู้" กับ "ความสะดวกสบาย" ที่อาจไม่คุ้มค่าในอนาคต