svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

กรมอนามัยเตือน "คุณภาพน้ำ" หลังน้ำท่วมต่ำกว่ามาตรฐาน

กรมอนามัยเผยค่าคลอรีนในน้ำใช้พื้นที่ประสบภัยเหลือเพียง 1.6% ต่ำกว่ามาตรฐาน แนะประชาชนตรวจคุณภาพน้ำ ทำความสะอาดบ้าน ตลาด โรงเรียน ก่อนกลับมาใช้งาน

KEY

POINTS

  • กรมอนามัยเตือนคุณภาพน้ำหลังน้ำท่วมต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยผลสำรวจในพื้นที่หาดใหญ่พบปริมาณคลอรีนคงเหลือในน้ำประปาเพียง 1.6% ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค
  • ปริมาณคลอรีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน (0.2 - 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร) ทำให้น้ำประปาอาจไม่ปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค
  • แนะนำให้ประชาชนปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนใช้งาน และเร่งทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในบ้านเรือน รวมถึงสถานที่สาธารณะอย่างตลาดและโรงเรียนเพื่อป้องกันการระบาดของโรค

แม้สถานการณ์ น้ำท่วม จะคลี่คลาย แต่ปัญหาด้านสุขอนามัยยังเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย ได้เป็นประธานในการประชุมเพื่อติดตามภารกิจของทีมปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพและ อนามัยสิ่งแวดล้อม (SEhRT) ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเน้นย้ำถึงภัยเงียบที่มากับ คุณภาพน้ำ

“การสำรวจล่าสุดในพื้นที่หาดใหญ่ พบว่าแหล่งน้ำใช้เพียงพอถึง 77.8% แต่กลับพบปริมาณ คลอรีน คงเหลือเพียง 1.6% เท่านั้น”

ปริมาณ คลอรีน คงเหลือตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข ควรอยู่ที่ 0.2 - 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งตัวเลขที่ต่ำมากนี้หมายความว่า น้ำประปาที่นำมาใช้อาจไม่ปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค

⚠️ ต้องรู้! ปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนใช้งาน

กรมอนามัย แนะนำให้ประชาชนเร่งปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนนำมาใช้อุปโภค บริโภค เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำที่คลอรีนต่ำ นอกจากนี้ยังพบปัญหาเชื้อราในบ้านเรือน ซึ่งต้องเร่งทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก่อนเข้าอยู่อาศัย

ทีม SEhRT ของ กรมอนามัย ยังคงลงพื้นที่ให้คำแนะนำด้านสุขาภิบาล พร้อมสนับสนุนวัสดุช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัย, ชุดทำความสะอาด V-Clean, ครีมน้ำกัดเท้า และ คลอรีน เม็ด/น้ำจำนวนมากที่ยังคงเป็นที่ต้องการในพื้นที่

🧼 คู่มือฟื้นฟูสุขอนามัยสถานที่สาธารณะอย่างเร่งด่วน

กรมอนามัย ได้แนะนำการทำความสะอาดสถานที่สาธารณะที่ต้องเปิดใช้งานโดยเร็ว อาทิ ตลาด และ โรงเรียน โดยขอให้สำรวจความเสียหาย ตรวจสอบโครงสร้าง และระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัย ก่อนเริ่มเข้าทำความสะอาด

1. การเตรียมความพร้อมและป้องกันตนเอง

  • ความปลอดภัยสำคัญที่สุด: รอให้ระบบไฟฟ้าแห้งสนิทก่อนใช้งานเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
  • อุปกรณ์ป้องกัน: เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดให้เตรียมชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) เช่น หน้ากากอนามัย, ถุงมือยาง, รองเท้ายาง และเตรียมวัสดุทำความสะอาด เช่น ถุงดำ, น้ำยาฆ่าเชื้อ, สารส้ม, คลอรีน น้ำ

2. ขั้นตอนการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

สำหรับ "ตลาด"

  • การจัดเก็บขยะ: จัดการสิ่งสกปรกบนเพดาน, ฝาผนัง, โคมไฟ, และพัดลมก่อน จากนั้นกวาดเศษขยะตามพื้น ทางเดิน และรางระบายน้ำ
  • การขัดคราบ: ขัดคราบดินโคลน ไขมันบนพื้น ทางเดิน แผงจำหน่ายอาหาร และเขียงด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือโซดาไฟ แล้วล้างตามด้วยน้ำสะอาด
  • การฆ่าเชื้อโรค: ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เช่น น้ำผสมผงปูน คลอรีน 60 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วน 1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ฝักบัวรดน้ำบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด และปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้ คลอรีน ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค
  • สุขาภิบาล: ล้างห้องน้ำในตลาด ทำความสะอาดอ่างล้างมือ ก๊อกน้ำ ที่ปัสสาวะ สายฉีดชำระ ที่รองนั่งส้วม พื้นห้องส้วมและกลอนประตู ด้วยน้ำยาทำความสะอาด (เน้นจุดเสี่ยง) และล้างด้วยน้ำสะอาด
  • การจัดการท่อ: สำรวจและลอกท่อระบายน้ำ กำจัดสิ่งอุดตันหรือขยะเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง

สำหรับ "โรงเรียน"

  • การทำความสะอาด: ทำความสะอาดเช่นเดียวกันกับตลาด แต่เน้น โต๊ะ, เก้าอี้, สนามเด็กเล่น, ห้องน้ำ, ห้องครัว, โรงอาหาร, ตู้น้ำดื่ม, และเครื่องกรองน้ำ

กรมอนามัยย้ำว่าการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมไม่ใช่เพียงการจัดเก็บทรัพย์สินหรือทำความสะอาดพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นกระบวนการสำคัญเพื่อป้องกันโรคระบาด หากทุกฝ่ายร่วมมือกันตั้งแต่การตรวจน้ำใช้ การจัดการขยะ ไปจนถึงการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ชุมชนกลับมาปลอดภัยและใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน