svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

เตือน! พบผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจสูงผิดปกติ อาการ การรักษา การป้องกัน

รัฐบาลเตือน! รู้เท่าทันสัญญาณอันตราย “โรคลิ้นหัวใจ” ก่อนสายเกินแก้ พบคนไทยเสียชีวิต มากถึง 4 หมื่นราย อาการ การรักษา การป้องกัน

4 พฤษภาคม 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โรคลิ้นหัวใจ คือโรคเกิดขึ้นกับลิ้นหัวใจเอออร์ติก แบ่งอาการออกเป็นดังนี้ 

 

  • แบบที่ 1 คือ โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ ลิ้นหัวใจมีลักษณะแคบลงเปิดไม่สุดและกีดขวางการไหลเวียนปกติของเลือด
  • แบบที่ 2 โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกรั่ว ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิทและมีเลือดไหลย้อนกลับห้องหัวใจ

 

อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

สถิติจากกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยสะสมด้วยโรคลิ้นหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 2.5 แสนราย และเสียชีวิตด้วยโรคลิ้นหัวใจตีบและโรคลิ้นหัวใจรั่วมากถึง 4 หมื่นราย นอกจากนี้ข้อมูลทางการแพทย์บ่งชี้ว่าอุบัติการณ์ของโรคหัวใจ

 

โดยเฉพาะโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยพบมากขึ้นในผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เมื่ออายุมากขึ้น ลิ้นหัวใจเอออร์ติกก็อาจเสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการสะสมของแคลเซียมที่ลิ้นหัวใจ จนทำให้ลิ้นหัวใจหนาขึ้น แข็งขึ้น และเปิดได้ไม่เต็มที่ ส่งผลทำให้เลือดไหลผ่านได้น้อยลง

เตือน! พบผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจสูงผิดปกติ อาการ การรักษา การป้องกัน

 

อาการ

 

สำหรับอาการของโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ จะมีอาการ เช่น เหนื่อยง่าย หน้ามืดเป็นลม มีอาการใจสั่นหรือเจ็บหน้าอก ข้อเท้า เท้าบวม และหัวใจเต้นผิดปกติ หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ เพราะหากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

การรักษา

 

ทั้งนี้ หาก  ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจ แพทย์จะมีการพิจารณาในการเลือกชนิดของลิ้นหัวใจเทียมที่เหมาะสมสำหรับที่จะใส่ทดแทนลิ้นหัวใจเดิม ซึ่งจะให้เลือกด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่

  1. ลิ้นหัวใจชนิดโลหะ (Mechanical valve)
  2. ลิ้นหัวใจชนิดเนื้อเยื่อ (Tissue valve)

 

ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายแตกต่างกันไป โดยจะพิจารณาเปลี่ยนลิ้นหัวใจตามมาตรฐานสากล

เตือน! พบผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจสูงผิดปกติ อาการ การรักษา การป้องกัน

 

การป้องกัน

 

โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ สามารถป้องกันได้มากถึง 80% โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยหลัก 4อ. 2ส. 1น. ดังนี้

  • อาหาร เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม
  • อารมณ์ ควบคุมอารมณ์ ความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส
  • ออกกำลังกาย ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสม 150 นาทีต่อสัปดาห์
  • อากาศ หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศและอากาศที่มีฝุ่นควัน
  • ไม่สูบบุหรี่
  • ไม่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 
  • นอนหลับ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน

 

การตรวจสุขภาพประจำปีก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันหรือรักษาติดตามการเกิดโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบและหลอดเลือดได้ดีในระยะยาว

 

ดังนั้น ประชาชนกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 25-59 ปี สามารถตรวจคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ ได้จากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือประกันสังคมตามสิทธิการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นายอนุกูล ระบุ