svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ และ ความงาม

แนะ 6 เทคนิค กินอย่างไรให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน

รู้หรือไม่ เราสามารถเลือกการกินอาหารให้ดีเพื่อที่จะช่วยชะลอการสลายและมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้นได้ และนี่คือ 6 เทคนิคที่จะช่วยให้คอลลาเจนในร่างกายอยู่กับเราไปนาน ๆ

คอลลาเจน (Collagen) คือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่คล้ายกาวเกาะยึดส่วนต่างๆ ในร่างกาย เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน เส้นผม กระดูกอ่อน ข้อต่อ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ รวมถึงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งร่างกายมนุษย์ทุกคนสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ 

ปกติคอลลาเจนที่ร่างกายได้รับมักมาจากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา พืช หรือผลิตภัณฑ์จากนม ที่เข้าไปย่อยสลายจนแตกตัวและก่อตัวขึ้นใหม่ กลายเป็นเส้นใยโปรตีนหรือคอลลาเจน ซึ่งทําหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย คอยช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น คงความกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน และช่วยปกป้องความแข็งแรงให้กับกระดูกอ่อน 

โดยร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้มากในขณะที่เรามีอายุน้อย และจะลดปริมาณการผลิตคอลลาเจนลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ขึ้นไปพบว่าการสังเคราะห์คอลลาเจนจะลดลงหรือในผู้ที่มีปัจจัยบางอย่างทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่าย

แนะ 6 เทคนิค กินอย่างไรให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน

ช่วงอายุกับการเสื่อมของคอลลาเจน

  • 30-39 ปี ผิวจะเริ่มมีรอยย่นบางๆ ทอดยาวบริเวณหน้าผากมีริ้วรอยเล็กๆ ใต้ขอบตาล่างและหางตาจะเห็นชัดเวลายิ้มและมีรอยย่นตรงระหว่างคิ้ว ซึ่งจะเห็นชัดเวลาหน้านิ่ว มีริ้วรอยบางๆ ที่ร่องแก้มจากจมูกจนถึงเหนือริมฝีปาก อาจเกิดไฝ กระ ฝ้าทั้งแบบลึกและตื้น ขนาดของรูขุมขนจะเห็นชัดขึ้น
  • 40-49 ปี รอยย่นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ใต้ขอบตาล่างและหางตา เห็นชัดเจนมากขึ้น รอยย่นข้างแก้มและร่องแก้มลึกทอดยาวไปจนจดมุมปาก มีฝ้าชนิดลึกมากขึ้น สภาพผิวเริ่มแห้ง มีรูขุมขนใหญ่และเริ่มจะเป็นสิวอีกครั้ง มีติ่งเนื้อขึ้นกระจัดกระจายเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลภาวะนี้เรียกว่าวัยเริ่มตกกระ
  • 50-64 ปี ผิวจะมีสภาพเหมือนกับวัย 40-49 ปี แต่จะมีรอยย่นตามร่องแก้มลึกทอดยาวไปจนถึงบริเวณใต้มุมปาก มีฝ้าเกิดขึ้นและติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะคอลลาเจนจะเริ่มเสื่อมลงอย่างมาก
  • 65 ปี ขึ้นไป ผิวหนังหยาบกร้าน มีริ้วรอยทั่วหน้า ริมฝีปากบาง มีรอยย่นเหนือริมฝีปาก ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ คล้ายกับวัย 50-64 ปี


ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคนโดยที่เราไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่เราสามารถช่วยชะลอความเสื่อมของผิวพรรณและรักษาผิวไว้ให้ดูดีให้นานที่สุดได้เช่นเดียวกัน

แนะ 6 เทคนิค กินอย่างไรให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน

กินอย่างไรให้ร่างกายช่วยสร้างคอลลาเจน
1. กินโปรตีนต่อวันต้องเพียงพอ ทำให้สร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ โดยการกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือ ธัญพืชต่าง ๆ ให้เพียงพอความต้องการต่อวัน หรือ 1-1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าหากเรามีน้ำหนักตัวที่ 50 กิโลกรัม แสดงว่าเราต้องกินโปรตีนให้ได้ 50-60 กรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับการเลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลา ให้ได้รวม ๆ กันประมาณ 200-250 กรัม เพื่อที่ร่างกายจะนำคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ต่อสภาพผิว ข้อเข่า หรือมวลกระดูก แทนการนำไปปรับสมดุลของโปรตีนในร่างกายนั่นเอง

2. กินอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซี เพราะวิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่ช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจน โดยแหล่งของวิตามินซี คือ ผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น ฝรั่ง ผักคะน้า บรอกโคลี สตรอเบอร์รี่ ส้ม แอปเปิลแดง มะนาว เบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ เป็นต้น

3. กินอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินเอ เพราะวิตามินเอช่วยกระตุ้นการเติบโตของไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ที่มีหน้าที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกาย ที่ทำให้ผิวพรรณยังเต่งตึง โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามิน เอ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลืองส้ม เช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท มะละกอสุก เป็นต้น

4. กินอาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอี เพราะวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานคู่กับวิตามินซี โดยแหล่งของวิตามินอี คือ น้ำมันพืชต่าง ๆ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง นอกจากนี้ยังพบใน ถั่วอัลมอนด์ อาโวคาโด มะม่วง กีวี เป็นต้น

5. หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน เพราะน้ำตาลจะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชัน (glycation) ที่จะส่งผลให้คอลลาเจนเสียรูปร่าง และไม่ยืดหยุ่นแบบที่ควรเป็น

6. ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างคอลลาเจนในร่างกาย หากดื่มน้ำไม่พอการสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงไปด้วยนั่นเอง
แนะ 6 เทคนิค กินอย่างไรให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน
ที่มา: สสส., Nestle, Interpharma Group