รอยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตัว HUNTER 350 เวิลด์พรีเมียร์ในไทย

 

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ รอยัล เอ็นฟีลด์ Hunter 350 รุ่นใหม่นี้จะนำเอารสชาติอันเต็มอรรถรสของจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริงมารวมกันไว้ในรูปทรงใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมด้วยแรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ตระกูล J-series ที่ออกแบบอย่างประณีตขั้นสุด

 

 

โดย Hunter 350 ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความคล่องตัวสูงสุดและการควบคุมที่เฉียบขาดด้วยระยะฐานล้อที่สั้นลง ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว น้ำหนักเบากว่า และเฟรมที่กะทัดรัด ทำให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อนำทางการขับขี่ไปยังท้องถนนในเมืองและย่านสุดเก๋

 

รถจักรยานยนต์รุ่นนี้จะเปิดตัวใน 2 รูปแบบที่ต่างกัน พร้อมสีสุดโดดเด่น 8 สี  รูปลักษณ์และสัมผัสระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ ราคาขายปลีกแนะนำของผู้ผลิตเริ่มต้นที่ 129,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม - กรุงเทพฯ) Hunter 350 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่ขับขี่แบบ 'สองล้อ double expresso' Hunter 350 รุ่นใหม่ได้รับการวางโครงสร้างและออกแบบมาสำหรับการใช้งานในเมืองที่เร่งรีบ โดยเป็นรถโรดสเตอร์ที่ปรับปรุงใหม่ด้วยลักษณะเฉพาะของ รอยัล เอ็นฟีลด์ ที่มาในรูปทรงอันมีสไตล์ กะทัดรัด และแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถขับขี่บนถนนในเมืองที่แออัด ถนนสายรองในชนบท และอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจ

 

 

Hunter 350 มีเอกลักษณ์เฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ รอยัล เอ็นฟีลด์ โดย Hunter ถูกสร้างขึ้นบนเครื่องยนต์ตระกูล J-series ขนาด 350cc ที่ได้รับรางวัล ซึ่งผสมผสานกับแชสซี Harris Performance ที่ปรับเลื่อนได้สูง และมอบความคล่องตัวและความแข็งแกร่งทนทานเมื่อขับขี่บนถนนในเมือง พร้อมความสนุกสนานผ่อนคลายเมื่อขับขี่ตามท้องถนนที่เป็นเส้นทอดยาว

 

รถจักรยานยนต์รุ่นนี้มี 2 รุ่นหลัก ๆ ได้แก่ Retro Hunter และ Metro Hunter โดยทั้งสองตกแต่งด้วยเครื่องยนต์และส่วนประกอบที่ทันสมัยและเคลือบด้วยสีดำ Retro Hunter ขับขี่ด้วยล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว และมีจานเบรกด้านหน้าขนาด 300 มม. พร้อมดรัมเบรกด้านหลังขนาด 6 นิ้ว ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังจาก Showa ระบบ ABS แบบหนึ่งทิศทาง แผงหน้าปัดดิจิทัลและอะนาล็อกสไตล์ย้อนยุคที่สบายตาซึ่งจะแสดงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น และรุ่นย่อยที่มีตัวถังแบบคลาสสิกสีเดียวจำนวนสองรุ่น

 

 

ส่วนรุ่น Metro Hunter จะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ร่วมสมัยมากขึ้นด้วยการตกแต่งแบบสองสี ล้ออัลลอยหล่อขึ้นรูป ยางแบบไม่มียางในขนาดกว้าง และไฟท้ายแบบกลม ทั้งสองรุ่นย่อยของ Metro Hunter จะมีทั้งหมด 6 สี โดย 3 สีจะเป็นรุ่นที่มีตัวถังและกราฟิกสุดเท่ และอีก 3 สีจะเป็นของรุ่นท็อปสุดซึ่งมาพร้อมกับการตกแต่งถังน้ำมันที่โดดเด่นและสร้างสรรค์ที่สุดตั้งแต่เคยใช้ประดับ         

 

     

รอยัล เอ็นฟีลด์ มา Metro ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมกับล้ออัลลอยและยางแบบไม่มียางในขนาดกว้างขึ้น โดยยางหน้ามีขนาด 110/70 x 17” และยางหลัง 140/70 x 17” เพื่อการควบคุมที่เหนือชั้นและรูปลักษณ์ที่สวยงามแข็งแกร่ง จานเบรกหน้าขนาด 300 มม. และจานเบรกหลังขนาด 270 มม. ระบบเบรก ABS สองทิศทาง ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังแบบ Endurance และขาตั้งที่ใช้งานสะดวก ขณะที่ไฟท้าย LED และแผงหน้าปัดดิจิทัลอและนาล็อกระดับพรีเมียมที่แสดงมาตรวัดระยะทาง มาตรวัดการเดินทาง ไฟแสดงเกียร์ แถบกราฟที่แจ้งเตือนเมื่อระดับเชื้อเพลิงต่ำ นาฬิกา และการแจ้งเตือนเมื่อรับบริการ สิ่งเหล่านี้สร้างความสมบูรณ์แบบให้กับรุ่นนี้ รถจักรยานยนต์ทุกรุ่นของ Hunter มีปุ่มควบคุมที่แฮนด์ซึ่งไม่รกเกะกะ เครื่องยนต์โรตารีและสวิตช์ไฟช่วยให้นึกถึงอดีตอย่างนุ่มนวล และมาพร้อมกับพอร์ตชาร์จ USB

 

 

รูปทรงแชสซีของ Hunter 350 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีอัตราส่วนความสูงต่อน้ำหนักที่สมดุลที่สุด พร้อมมอบความสบายที่เหนือกว่าด้วยเบาะนั่งชิ้นเดียวที่ยาวและกว้าง ด้วยมุมแกนหมุนของล้อและระยะเทรลที่ปรับปรุงใหม่ เบาะนั่งที่ต่ำลง 800 มม. และระยะฐานล้อที่สั้นลง ความคล่องตัวอันยอดเยี่ยมของ Hunter จะช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นขณะขับขี่ผ่านถนนที่คับแคบ และให้ความรู้สึกเกาะถนนและมั่นคงในทุกสถานที่และทุกสถานการณ์

 

 

Hunter รถจักรยานยนต์ขนาด 349cc ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ J-series ประเภทสูบเดียวที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน ซึ่งเพิ่งเปิดตัวด้วยเครื่องยนต์เดียวกันกับ Meteor และ Classic 350 โดยมีระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดไฟฟ้า พร้อมให้กำลังสูงสุด 20.2 bhp ที่ 6100 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตรที่ 4000 รอบต่อนาที ทำให้เกิดเสียงหนักแน่นและกระหึ่ม ขณะที่การส่งกำลังเชิงเส้นเป็นไปอย่างราบรื่นสุดๆ และการขับขี่ก็ตื่นเต้นและเหนือชั้น และด้วยเพลาบาลานเซอร์หลักที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน ทำให้รู้สึกนุ่มนวลและทรงตัวดี ส่วนการเปลี่ยนเกียร์มีความแม่นยำและราบรื่นด้วยกระปุกเกียร์ 5 สปีดที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ โดย Hunter ตั้งเป้าหมายที่จะเจาะตลาดลูกค้าทั่วโลก โดยจะเปิดตัวในตลาดสำคัญ ๆ ในเอเชียแปซิฟิกก่อนสิ้นปีนี้ ส่วนยุโรปและอเมริกาจะตามมาในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า