นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า การฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็ม ใช้สำหรับเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ชนิดชั่วคราว และชนิดกึ่งถาวร โดยชนิดชั่วคราวส่วนใหญ่ จะเป็นสารกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ (HA) ในการฉีดครั้งหนึ่งจะอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี
ส่วนชนิดกึ่งถาวร ในการฉีดครั้งหนึ่งอาจอยู่ได้ยาวนานเป็น 10 ปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แพทย์จะไม่ค่อยแนะนำชนิดกึ่งถาวร เนื่องจากโดยส่วนใหญ่มักไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเหมือนกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาทำให้การรักษาค่อนข้างยาก
ดังนั้น ข้อควรปฏิบัติหรือสิ่งที่ควรทราบก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ให้กล่าวเพิ่มเติมว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดไม่ถูกตำแหน่ง หรือการเลือกใช้ตัวของผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดการไหลของฟิลเลอร์ ผิวหนังบิดเบี้ยวหรือบวมหนาผิดรูป และมีปัญหาภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้
โดยจะมีวิธีการสังเกตภาวะแทรกซ้อนหรือความผิดปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ควรงดการทำหัตถการบริเวณใบหน้า เช่น นวดหน้า หรือการใช้เครื่องมือที่อาจมีความร้อน รวมถึงหมั่นสังเกตความผิดปกติบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะตำแหน่งที่ทำการรักษา ทั้งนี้ ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ หากต้องการคำแนะนำในการดูแลรักษาผิวพรรณที่ถูกวิธีแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง