จากเดิมนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างถิ่น นิยมข้ามสะพานมารับประทานอาหารทะเลสดๆโดยเฉพาะปลากระพงที่นี่ บรรดานักชิมต้องยกนิ้วให้ว่าอร่อยสุดๆ จากนั้นก็ขับรถวนรอบเกาะชมวัดวาอารามโบราณสถานเก่าแก่ แวะซื้อของที่ระลึกทั้งผ้าทอเกาะยอ ผลไม้ประจำถิ่นเช่นจำปะดะหนุน ละมุดหรือที่ชาวบ้านเรียกลูกสวา เป็นต้นติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่อยากจะให้
ในระยะ 10 ปี ที่ผ่านมานี้การท่องเที่ยวแบบเช้ามาเย็นกลับที่เกาะยอเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อมีการสร้างบ้านพักหรือ โฮมสเตย์ ยื่นออกไปในทะเลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ ซึ่งกระแสตอบรับดีมากเพราะนอกจากจะมีพื้นที่ส่วนตัวในการทำกิจกรรมแล้วยังได้รับบริการเสริมจากเจ้าของโฮมสเตย์พานั่งเรือล่องชมธรรมชาติ วิถีชีวิต การทำประมงพื้นบ้านของชาวเกาะยอ
ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านที่นี่ก็ทำการประมงเป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว ต่อมาในระยะหลังๆการเลี้ยงปลาในกระชังโดยเฉพาะปลากระพง สองน้ำของที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจึงเลี้ยงกันรอบเกาะ ยิ่งปัจจุบันมีการสร้างโฮมสเตย์ เข้ามาเสริมทำให้สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชาวเกาะเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่หรือไม่ก็เกี่ยวดองเป็นเครือญาติกันทั้งนั้น
เมื่อมีโฮมสเตย์ผุดขึ้นมากมายเช่นนี้ แน่นอนปัญหาย่อมตามมาโดยเฉพาะการบุกรุกที่สาธารณะ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกิดคดีความตามมาจนถึงขั้นฟ้องร้องกันขึ้นระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ
แม้ปัจจุบันศาลจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ผิดกฎหมายออกจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2555 แต่ผ่านมา 4 ปี ก็ยังพบว่ามีการก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้างใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง การสำรวจข้อมูลล่าสุดพบว่าปัจจุบันมีผู้ประกอบการทั้งหมด 49รายและมีจำนวนโฮมสเตย์มากถึง 67 หลัง
การบังคับใช้กฎหมายการรื้อถอนโฮมเสตย์บางส่วนที่ยังยืดเยื้อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผู้ประกอบการขอความเห็นใจจากคณะกรรมการจัดระเบียบเกาะยอฯ โดยมีการผ่อนผันการรื้อถอนออกไปประมาณ 2-3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการได้คืนทุนจากเงินที่ลงทุนประมาณ 8 แสนบาทต่อโฮมเสตย์ 1 หลัง
ซึ่งผลการประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกันล่าสุด ได้กำหนดให้แยกปัญหาออกเป็น 2 ประเด็นหลักคือกรณีโฮมสเตย์ที่ศาลมีคำพิพากษาสิ้นสุดแล้วแต่ยังไม่ได้รื้อถอนต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว
ส่วนกรณีโฮมสเตย์ที่ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องต้องรีบจัดการภายใน4เดือนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ เป็นต้นไป โดยเสนอให้ผู้ประกอบการเดิมเปลี่ยนรูปแบบจากโฮมสเตย์เป็นรูปแบบอื่นที่เหมาะสม
สรุปง่ายๆก็คือ ให้เปลี่ยนจากเสามาเป็นทุ่นลอยน้ำแทน เพราะสิ่งปลูกสร้างที่ยื่นออกไปในทะเลที่มีการปักเสานั้นผิดกฎหมายกรมเจ้าท่า
ส่วนจะมีปัญหาอื่นๆเพิ่มขึ้นมาอีกหรือไม่ ต้องคอยติดตามกันต่อไป