ในช่วงฤดูฝนของแต่ละปีจะพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นประจำ โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประชาชนนิยมเก็บเห็ดป่าในธรรมชาติมากิน แต่เนื่องจากเห็ดป่านั้นมีทั้ง "เห็ดที่กินได้" และ "เห็ดพิษ" ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้
พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ แพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่าเห็ดป่าหรือเห็ดขึ้นเองตามธรรมชาติหลากหลายชนิด มีทั้งเห็ดกินได้และเห็ดพิษ ซึ่งมีลักษณะภายนอกใกล้เคียงกันมากมักแยกได้ยาก จึงทำให้พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าเขา ซึ่งข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค 5 ปีย้อนหลัง พบสถานการณ์อาหารเป็นพิษจากการกินเห็ดพิษ 90 เหตุการณ์ มีผู้ป่วยรวม 371 ราย เสียชีวิต 32 ราย
ในปี 2567 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 10 มิถุนายน มีรายงานผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการกินเห็ดพิษแล้ว 10 เหตุการณ์ มีผู้ป่วยรวม 36 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย เสียชีวิต 4 ราย โดยมีรายงานใน 5 จังหวัด ได้แก่
สำหรับแหล่งที่มาของเห็ดได้มาจากป่าเขาหรือสวนแถวบ้าน หรือพื้นที่เคยเก็บเป็นประจำทุกปี ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย 36-60 ปี 23 ราย คิดเป็น 64% รองลงมาคือ วัยสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 7 ราย คิดเป็น 19% และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น 18-35 ปี 6 ราย คิดเป็น 17 %
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 4 ราย อยู่ในช่วงอายุ 19-45 ปี เห็ดที่พบเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต ได้แก่ เห็ดระโงกพิษ 3 ราย และอีก 1 ราย ไม่ทราบชนิดเห็ด โดยจากการประเมินปัจจัยเสี่ยงพบว่า ผู้เสียชีวิต 3 ราย ไม่มีความรู้ในการแยกชนิดเห็ด และผู้เสียชีวิต 1 ราย มีอาชีพเก็บเห็ดป่า ระยะเวลาที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการหลังกินเห็ดพิษ มีตั้งแต่เร็วเป็นนาที หรือนานถึงหลายชั่วโมง โดยผู้ป่วยมีอาการตั้งแต่เล็กน้อย ได้แก่ วิงเวียน อาเจียนปวดท้อง ถ่ายเหลว จนถึงอาการรุนแรง ไตวาย ตับวาย และเสียชีวิตในที่สุด
1 เห็ดเผาะ กินได้ vs เห็ดไข่หงส์ เห็ดพิษ
ลักษณะภายนอกดูคล้ายกันต่างกันเพียงเห็ดเพาะไม่มีราก
2 เห็ดโคน กินได้ vs เห็ดหมวกจีน เห็ดพิษ
ผิวเรียบกับผิวเป็นปุ่มนูน เป็นริ้วหยาบ และดูได้จากสี
3 เห็ดระโงกขาว เห็ดไข่ห่าน กินได้ vs เห็ดระโงก หินระงาก เห็ดตายซาก เห็ดพิษ
สังเกตตรงหมวกเห็ด สี และปุยของเห็ด
4 เห็ดถ่านใหญ่ กินได้ vs เห็ดถ่านเลือด เห็ดพิษ
ต่างกันตรงน้ำยางเมื่อผ่าดอกเห็ด
5 เห็ดระโงกไส้เดือน เห็ดระโงหขี้ไก่เดือน เห็ดไส้เดือน กินได้ vs เห็ดระโงกน้ำตาล เห็ดพิษ
ไม่สามารถจำแนกได้ด้วยตาเปล่า ต้องอาศัยความชำนาญ
เห็ดที่มีรอยแมลงกัดเป็นเหตุที่กินได้ ---> ไม่เป็นความจริง
เห็ดสีฉูดฉาดเป็นเห็ดพิษ ส่วนเห็ดสีขาวเป็นเห็ดกินได้ ---> ไม่เป็นความจริง
ต้มเห็ดกับข้าวแล้วข้าวไม่เปลี่ยนสีเป็นเห็ดกินได้ ---> ไม่เป็นความจริง
ต้มเห็ดแล้วใช้ช้อนเงินคน ถ้าช้อนเปลี่ยนเป็นสีดำเป็นเห็ดพิษ ---> ไม่เป็นความจริง
ต้มเห็ดกับหัวหอม ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีดำเป็นเห็ดพิษ ---> ไม่เป็นความจริง
ใช้ปูนกินหมากป้ายที่เห็ด ถ้าเป็นเห็ดพิษ เห็ดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงปนน้ำตาล ---> ไม่เป็นความจริง
ให้กินผงถ่านกัมมันต์ (Activated Charcoal) เพื่อดูดซับพิษและจิบน้ำเพื่อชดเชยของเหลวที่เสียไป และควรรีบไปสถานพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด พร้อมแจ้งประวัติ การกินเห็ดและนำตัวอย่างเห็ดที่เหลือหรือภาพถ่ายเห็ดไปด้วย รวมถึงแจ้งผู้กินเห็ดจากแหล่งเดียวกันให้สังเกตอาการ
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนซื้อและกินเห็ดที่มีการเพาะพันธุ์จากฟาร์มเห็ดหรือแหล่งที่มีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเก็บหรือกินเห็ดป่าหรือเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่
นอกจากนี้ ยังไม่ควรเก็บเห็ดบริเวณที่มีการใช้สารเคมี รวมถึงไม่กินเห็ดดิบ และไม่กินเห็ดร่วมกับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดังนั้น “เห็ด ไม่รู้จัก ไม่แน่ใจ ไม่เก็บ ไม่กิน” หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422