svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health & Lifestyle

โยเกิร์ต-น้ำผึ้ง-มะนาว กับ “นิ่วในถุงน้ำดี” เกี่ยวข้องกันหรือไม่?

แชร์สนั่นโซเชียลถึงประโยชน์ของการ “กินโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และมะนาวทุกวัน” จะช่วยทำให้ “นิ่วในถุงน้ำดี” หลุดออกมาเองได้ เรื่องนี้ความจริงเป็นอย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

จากที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องกินโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และมะนาวทุกวัน ช่วยทำให้นิ่วในถุงน้ำดีหลุดออกมาเองได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น “เป็นข้อมูลเท็จ”

โดยตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และมะนาว เป็นอาหารประเภทไขมันต่ำ มีไฟเบอร์สูง มีผลลดการเกิดนิ่ว ถือเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในภาพรวม แต่ไม่มีผลต่อการหลุดของนิ่วแต่อย่างใด

ปัจจุบันมียาที่ช่วยเพิ่มการละลายของนิ่วชนิดโคเลสเตอรอลที่พบในถุงน้ำดีได้ แต่มีผลข้างเคียงและต้องใช้เวลานานในการละลาย แต่เนื่องจากนิ่วที่พบในคนไทยส่วนใหญ่มีส่วนประกอบเป็นหินปูน ไม่ใช่ชนิดโคเลสเตอรอลจึงไม่มีที่ใช้ในการรักษามากนัก 

ดังนั้น บทสรุปของเรื่องนี้คือ โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และมะนาวเป็นอาหารประเภทไขมันต่ำ มีไฟเบอร์สูง มีผลลดการเกิดนิ่ว ถือเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในภาพรวม แต่ไม่มีผลต่อการหลุดของนิ่วในถุงน้ำดี

 

โยเกิร์ต-น้ำผึ้ง-มะนาว กับ “นิ่วในถุงน้ำดี” เกี่ยวข้องกันหรือไม่?

เปิดประโยชน์ที่แท้จริงของ “โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และมะนาว”

คุณประโยชน์ของ “โยเกิร์ต”

  • เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศ ในโยเกิร์ตนั้นจะมีโปรตีนมากกว่าในนมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และยังเป็นโปรตีนที่สามารถย่อยง่าย ไม่ทำให้ท้องอืดเหมือนโปรตีนที่ได้จากนม
  • ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ในโยเกิร์ตมี “โพรไบโอติกส์” แบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้และระบบย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย พร้อมทั้งโพรไบโอติกส์ยังจะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของร่างกายดีขึ้น
  • ดีต่อลำไส้ ช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อลำไส้ไม่ว่าจะเป็น ซัลโมเนลลา อีโคไล โคลิฟอร์มแบคทีเรีย พูดง่ายๆ ก็คือโยเกิร์ตสามารถยังยั้งอาการปวดท้องหรือท้องเสียที่เกิดจากเจ้าเชื้อโรคดังกล่าวได้นั่นเอง
  • ในโยเกิร์ตมีแลคโตบาซิลลัส ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนั้น ยังสามารถควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ที่อยู่ในเลือดได้ ดังนั้น จึงมักเห็นผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน มีส่วนผสมของโยเกิร์ตอยู่
  • โยเกิร์ตนั้นเป็นสารที่ยับยั้งและป้องกันการเกิด “มะเร็ง” นอกจากนั้น แลคโตบาซิลลัสยังสามารถยับยั้งไม่ให้แบคทีเรียในลำไส้สร้างสารไนเตรทที่เป็นอันตรายอีกชนิดหนึ่งกับร่างกายได้อีกด้วย
  • เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยมีการวิจัยบางชนิดพบว่า หากรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ถ้วย แบคทีเรียในโยเกิร์ตจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ร่างกายป่วยไข้ได้ง่าย
  • ช่วยฆ่าเชื้อราต่างๆ ได้ โดยเฉพาะเชื้อราบริเวณช่องคลอดของสาวๆ ซึ่งมักจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยหากรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดเชื้อราชนิดนี้
  • โยเกิร์ตช่วยให้ไม่มีกลิ่นปาก เนื่องจากเจ้าแลคโตบาซิลลัส และสเตรปโตคอคคัสจะช่วยกำจัดแบคทีเรียในปากที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากนั่นเอง
  • ดีต่อผิว โยเกิร์ตยังสามารถนำไปใช้ในการเสริมความงาม เช่น มาร์คหน้า พอกหน้า พอกตัว เพื่อบำรุงผิวพรรณให้สวยสดใสได้อีกด้วย

คุณประโยชน์ของ "น้ำผึ้ง"

รู้หรือไม่? ในน้ำผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส+น้ำตาลฟรักโทส ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นน้ำ แร่ธาตุ กรด โปรตีนบางชนิด และวิตามิน ดังนั้น ถ้าเรากินน้ำผึ้งจะช่วยในเรื่องดังนี้

  • ช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย
  • ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้ความเครียดลดลง
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  • เพิ่มความกระจ่างใสบริเวณใบหน้า
  • สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดสิวได้

คุณประโยชน์ของ "น้ำมะนาว"

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ มะนาวอุดมไปด้วยกรดซิตริก วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ จึงช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวถูกทำร้าย ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ลดความมัน ลดริ้วรอยและสิว เพราะมะนาวมีสารที่ช่วยขจัดกรดต่างๆ ที่ตกค้างให้ออกไป
  • ช่วยย่อยอาหาร เพราะน้ำมะนาวมีองค์ประกอบคล้ายกรดไฮโดรคลอริก ที่อยู่ในน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร จึงช่วยเสริมแรงย่อยอาหารได้ดีขึ้น มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ที่ร่างกายผลิตกรดมาย่อยอาหารได้น้อยลง
  • ดีต่อลำไส้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้บีบตัว เพื่อขับสารพิษออกมาพร้อมกับอุจจาระ เหมือนเป็นการดีท็อกซ์ เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว อาจทำให้เกิดการขับถ่ายในเวลาต่อมา
  • ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย เช่น อาการท้องอืด เป็นต้น
  • ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันไม่ให้ร่างกายเป็นหวัด หรือช่วยให้อาการหวัดดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังต่อต้านการอักเสบ เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย และมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของสมองและประสาทอีกด้วย