svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

How to การดูแลผิวหน้าจากผลกระทบของมลภาวะและ PM2.5 แบบฉบับแพทย์ผิวหนังแนะนำ

01 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เพราะผิวหน้าเปรียบดั่งปราการด่านสำคัญ 3 เซเลบริตี้สาวร่วมแชร์เคล็ดลับการดูแลปกป้องผิวทั้งก่อนและหลังเผชิญกับมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5

ประเทศไทยเข้าสู่หน้าร้อนบวกกับสถานการณ์ปัญหามลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 ที่ยังคงมีให้สาวๆ กังวล โดยเฉพาะเรื่องของ “ผิวหน้า” ล่าสุดแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม THANN ร่วมกับ แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม เผย “วิธีดูแลสุขภาพผิวหน้าให้ห่างไกลจากผลกระทบของมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5”

How to การดูแลผิวหน้าจากผลกระทบของมลภาวะและ PM2.5 แบบฉบับแพทย์ผิวหนังแนะนำ

ผิวหน้าของเราถูกทำร้ายได้อย่างไร?

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช อธิบายว่า ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกายของเรา ทำหน้าที่เป็นปราการด่านแรกในการป้องกันอันตรายจากพวกแบคทีเรีย ไวรัส อีกทั้งยังมีหน้าที่ช่วยควบคุมไม่ให้ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้น ควบคุมอุณหภูมิ และรับความรู้สึก ปัจจุบันปัญหามลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเริ่มมีมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยสารตั้งต้นของ PM 2.5 ก่อนจะรวมตัวกับไอน้ำ และฝุ่นควัน คือก๊าซพิษ หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และกระตุ้นให้มีการหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokines) ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และทำให้ผิวเกิดการแพ้ได้ง่าย โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) หรือโรคผิวหนังอักเสบบริเวณต่อมไขมัน มลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังเราและก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยส่งผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

1. ระยะสั้น หรือระยะเฉียบพลัน

  • ทำลายเซลล์เคราติโนไซต์ (Keratinocytes) ที่อยู่ในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และทำลายฟิลแลกกริน  (Filaggrin) ที่มีหน้าที่ป้องกันผิวหนัง (epidermal barrier protein) ให้เกิดความอ่อนแอและเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ผิวแห้งและระคายเคืองง่าย
  • กระตุ้นการหลั่งสารที่ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ และผดผื่นคัน
  • นำพาสารเคมีและโลหะหนักต่าง ๆ เข้าสู่ผิวหนัง ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง

2. ระยะยาว หรือระยะเรื้อรัง

  • ก่อให้เกิดสภาวะผิวเสื่อมชราได้เร็วขึ้น รวมถึงทำให้ผิวเกิดการอักเสบอย่างต่อเนื่อง
  • กระตุ้นให้เกิดปฎิกิริยาออกซิเดชั่น รบกวนกระบวนการสร้างเซลล์ผิว และระบบภูมิคุ้มกันผิว สาเหตุของการเกิดริ้วรอยร่องลึก กระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีมากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระและจุดด่างดำ

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม

PM 2.5 เร่งความชราของผิว

หากสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เพียง 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในช่วงเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหนังได้แล้ว และหากต้องเผชิญกับฝุ่นละอองระดับ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะก่อให้เกิดภาวะความชราของผิว รวมถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผิวลดลง ส่วนผู้ที่มีสภาพผิวมัน อาจพบปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ทำให้เป็นสิวได้ง่าย ส่วนผู้ที่มีสภาพผิวอ่อนแอและแพ้ง่ายมักจะเกิดผดผื่น อาการคันและระคายเคืองได้ง่าย นอกจากผิวหน้าแล้ว ผิวบริเวณอื่นของร่างกายอย่างข้อพับก็สามารถเกิดผื่นแดงคันได้ด้วยเช่นกัน

มั่นใจแค่ไหนว่าเราล้างหน้าสะอาด?

การดูแลผิวหน้าเมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 ควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นพิเศษ แนะนำให้ทำความสะอาดผิวหน้าทันที่เมื่อกลับถึงที่พักอาศัย โดยสามารถทำได้ 2 ขั้นตอน (Double Cleansing) คือ

ขั้นตอนแรก ทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนต่อผิว โดยไม่ทำลายสมดุลความชุ่มชื้นของผิว

ขั้นตอนที่ 2 ปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนด้วยการใช้โทนเนอร์หลังการล้างหน้าทุกครั้ง นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดหลังการล้างหน้าแล้ว ยังถือเป็นเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนรับการบำรุงต่อไป

หลังการล้างทำความสะอาดผิวควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และทำหน้าที่เสมือนเกราะเคลือบปกป้องผิวไม่ให้สัมผัสกับมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 โดยตรง และระหว่างสัปดาห์ควรมาส์กหน้าเพื่อฟื้นบำรุงสภาพผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง  แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากผลองุ่น (Grape extract) และสารสกัดจากรากหม่อน (Mulberry root extract) หรือกลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากพืชทะเลทราย (Ougon extract), สารสกัดจากทีฮาโลส (Trehalose extract) หรือสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ อย่าง AHA หรือกรดผลไม้ที่อ่อนโยน รวมถึงสารสกัดที่สามารถลดเลือนริ้วรอย อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดก่อนออกจากที่พัก ควรเป็นผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดที่เนื้อบางเบา ไม่ก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน ไม่อุดตันรูขุมขน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

เรื่องที่ควรระวังเพิ่มเติมในช่วงที่มีปัญหามลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 ปริมาณมาก คือการเลือกใช้เครื่องสำอางในการแต่งหน้า แนะนำให้เลือกใช้รองพื้นบางเบาแทนการใช้รองพื้นเนื้อหนัก เนื่องจากรองพื้นเนื้อหนักจะก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน ทำให้มลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 สามารถมาเกาะและแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้โดยง่าย

สุขภาพดีจากภายใน มีชัยไปกว่าครึ่ง

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แนะนำให้สาวๆ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งผัก ผลไม้หลากสี รวมถึงงดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนมาออกกำลังในร่มแทน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำสะอาดในระหว่างวันให้มากๆ ก็จะช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี และก่อนออกจากที่พักก็ไม่ควรลืมสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันมลภาะและฝุ่นละออง PM2.5

เอม-ม.ล.เอวิตา ยุคล

ปกป้องผิวพร้อมบำรุง เทคนิคที่ “เอม-ม.ล.เอวิตา ยุคล” อยากบอกต่อ

ด้านเซเลบริตี้สาวต่างก็ได้ร่วมเผยเคล็ดลับการดูแลปกป้องผิวทั้งก่อนและหลังเผชิญมลภาะและฝุ่นละออง PM2.5 เริ่มจาก เอม-ม.ล.เอวิตา ยุคล เล่าว่า “ช่วงที่มลภาวะและฝุ่นละออง PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตราฐานมากๆ จะรู้สึกได้ว่าผิวของเอมเกิดความแห้ง ขาดความสมดุล แพ้ง่าย เกิดผดผื่น และผิวยังดูหมองคล้ำไม่สดใสอีกด้วย มีหลายครั้งเกิดทั้งปัญหาสิว ผดผื่น และผิวดูหมองโทรมไม่สดใส  แต่เอมก็จะมีวิธีการดูแลและฟื้นฟูสภาพผิว โดยจะเน้นเรื่องการทำความสะอาดผิวเป็นหลักด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอย่าง Purifying Face Wash ที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก คราบฝุ่นละออง และความมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด และยังคงความชุ่มชื้นให้ผิว

ตามด้วยการปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงด้วย Astringent Toner ซึ่งอุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยปรับสมดุลผิวและกระชับรูขุมขน อีกสิ่งที่สำคัญก่อนออกจากบ้านคือไม่ควรลืมทาครีมกันแดด อย่างครีมกันแดดที่ชอบใช้ประจำ คือ Oil-Free Facial Sunscreen SPF 30 PA+++ ที่ชอบเพราะเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย และไม่อุดตันรูขุมขน นอกจากการดูแลผิวจากภายนอกแล้ว ก็จะมีวิธีดูแลผิวจากภายในด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวอย่างผลไม้และผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซี และอี ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวเราแข็งแรง และกลับมาสดใส ส่วนพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านก็จะใช้เครื่องฟอกอากาศสำหรับเป็นตัวช่วยในการป้องกันมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 ด้วย”

ปอนด์-หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา

เคล็ดลับดูแลผิวสาวผิวแห้งแบบ “ปอนด์-หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา”

ต่อมาที่สาวสวย ปอนด์-หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา เผยว่า “ปกติปอนด์จะเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายมาก ยิ่งช่วงที่ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตราฐาน มักส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง ผดผื่นและสิว เลยทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเมื่อต้องออกไปพบปะผู้คน ดังนั้น จึงต้องหันกลับมาใส่ใจการดูแลตัวเองโดยจะหลีกเลี่ยงการเดินทางในวันที่มีปริมาณมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน แต่หากจำเป็นต้องออกไปทำธุระนอกบ้านก็จะแต่งกายให้มิดชิด สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5

ส่วนการดูแลสุขภาพผิวแพ้ง่ายสำหรับช่วงนี้ คือการลดการใช้เครื่องสำอางในการแต่งหน้า เน้นการทำความสะอาดและฟื้นบำรุงสุขภาพผิว โดยจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับผิวแพ้ง่าย เริ่มจากการล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วย Purifying Face Wash เพื่อทำความสะอาดผิวจากมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 ได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังการล้าง ตามด้วย Astringent Toner เพื่อกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงต่อ”

How to การดูแลผิวหน้าจากผลกระทบของมลภาวะและ PM2.5 แบบฉบับแพทย์ผิวหนังแนะนำ

“กานดา สายทุ้ม” สาวสตรองทพร้อมการดูแลผิวให้สตรอง

ปิดท้ายที่สาวแฟชั่นนิสต้า กานดา สายทุ้ม เล่าว่า “ช่วงที่ปริมาณมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐานหนักๆ ก็จะสัมผัสได้ว่าผิวจะมีผดผื่นเม็ดเล็กๆ ขึ้น รวมถึงผิวยังดูหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน ส่วนตัวกานดาเองจะมีวิธีดูแลสุขภาพผิวโดยเน้นเรื่องการทำความสะอาดผิวเมื่อกลับมาถึงบ้านทันทีด้วย 2 ขั้นตอน (Double cleansing) เริ่มด้วยการทำความสะอาดผิวจากมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 ด้วย Purifying Face Wash แล้วเช็ดผิวด้วย Astringent Toner นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดผิวจากสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกินแล้ว ยังเป็นการกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้พร้อมก่อนการทาครีมบำรุงผิว

ระหว่างสัปดาห์ก็จะมาส์กหน้าด้วย Revitalizing Face Mask เพื่อฟื้นบำรุงและคืนความกระจ่างใสให้กับผิว รวมถึงก่อนออกจากบ้านทุกวันก็จะไม่ลืมทาครีมกันแดดอย่าง Oil-Free Facial Sunscreen SPF30 PA+++ นอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด รังสียูวีแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้มลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 มาสัมผัสกับผิวได้โดยตรงด้วยค่ะ”

logoline