
"มะเร็ง" นับเป็นโรคที่คุกคามชีวิตมนุษย์เพราะเป็นโรคที่ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นเวลานาน และผลข้างเคียงของการรักษาค่อนข้างรุนแรง รวมทั้งสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดมะเร็งนั้นไม่ทราบแน่นอน ถึงแม้ว่ามะเร็งบางชนิดจะมีบทบาททางพันธุกรรมเป็นส่วนสำคัญในการเกิดโรค แต่สาเหตุของการเกิดมะเร็งร้อยละ 80 เกิดจากวิถีการดำรงชีวิตและสภาพแวดล้อม เช่น พฤติกรรมการบริโภค การมีโภชนาการที่ไม่เหมาะสม สิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษ อากาศที่ใช้หายใจ ตำแหน่งที่อยู่อาศัย รวมถึงการประกอบอาชีพ ทั้งยังสัมพันธ์กับการขาดการออกกำลังกาย ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ทำให้อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นในทุกประเทศ
จากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการศึกษาค้นคว้าตัวยาและวิธีการใหม่เพื่อรักษาและป้องกันโรคมะเร็ง และในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าการส่งเสริมสุขภาพและ "การป้องกันการเกิดมะเร็ง มีความสำคัญยิ่งกว่าการรักษา" ดังนั้น การให้ความรู้หรือแนวทางด้านการส่งเสริมสุขภาพ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการบริโภค ด้านการปฏิบัติตัว ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เกิดพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น การลดอาหารไขมันจากสัตว์ เลือกรับประทานผักผลไม้ อาหารสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิเดนท์ (antioxidant) และมีสารสำคัญที่ช่วยยับยั้งหรือทำลายเซลล์มะเร็ง
ในพืชผัก ผลไม้ และสมุนไพร มีสารที่สามารถต่อต้านหรือป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เรียกว่า สารต่อต้านการก่อมะเร็ง (anti-carcinogen) และสารต่อต้านการส่งเสริมมะเร็ง (anti-tumor promoter) แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
กาแฟเป็นแหล่งของสารพฤกษเคมี หรือไฟโตนิวเทรียนท์ ที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Theophylline, Theobromine, Chlorogenic acid, Quinic acid, Cafestol และ Kahweol อีกทั้งยังมีการศึกษาพบว่า การดื่มกาแฟมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งตับ ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งช่องปาก คอหอย และมะเร็งอื่นๆ แต่ก็ต้องระวังส่วนผสมอื่นๆ ในกาแฟที่อาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ อย่างเช่น น้ำตาล ครีมเทียม เป็นต้น
2 ชาเขียว
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มต้านมะเร็งชั้นดี เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีกับร่างกาย มีสารสำคัญอย่าง Epigallocatechin-3-gallate (EGCG ) และคาเทชิน (Catechin) มีการศึกษาพบว่า การดื่มชาเขียวมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดย EGCG มีส่วนยับยั้งการเกิดขึ้นของเนื้องอกและการสร้างเส้นเลือดใหม่ที่จำเป็นต่อการเติบโตของเนื้องอก รวมถึงการแพร่กระจายด้วยเช่นกัน ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมดื่มชาเขียวเป็นประจำทั้งวัน และจะนิยมดื่มแบบร้อนมากกว่าแบบเย็น เพราะให้สารอาหารที่มีประโยชน์จากชาเขียวมากกว่า ที่สำคัญคือควรดื่มใหม่ๆ หลังจากชงแล้วจะดีกว่าทิ้งไว้นานๆ เพราะอาจสูญเสียคุณค่าทางอาหาร
3 ชาอู่หลง
อู่หลงเป็นชาจีนชั้นดีที่มีส่วนช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง มีคุณสมบัติคล้ายกับชาเขียว ซึ่งเคยมีงานวิจัยเผยว่า ชาอู่หลงมีบทบาทช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม รวมถึงการแพร่กระจายและการสร้างเนื้องอกได้
4 น้ำมะเขือเทศ
น้ำมะเขือเทศ เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีน วิตามินซี ไลโคปีน และแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีส่วนช่วยต้านมะเร็ง โดยเฉพาะไลโคปีนในมะเขือเทศที่อาจมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายได้
5 น้ำทับทิม
น้ำทับทิม มีโพลีฟีนอล ที่มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง พร้อมทั้งยังช่วยต้านการอักเสบ โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม รวมถึงมะเร็งอื่นๆ
6 น้ำขิง
สุดยอดสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารและทำเครื่องดื่ม ในขิงนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มากมาย มีสารสำคัญอย่าง จินเจอรอล (Gingerol) โดยการดื่มน้ำขิงจะช่วยต้านอนุมูลอิสระและขับพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แก้อาการจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ แถมยังลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
7 น้ำกระเจี๊ยบ
สมุนไพรที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ให้สีสันที่น่ารับประทาน เพียบพร้อมไปด้วยวิตามินเอที่ค่อนข้างสูง มีสรรพคุณทางยามากมาย อาทิ เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคนิ่วในไต ลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากในกระเจี๊ยบมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่มีส่วนในการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและยับยั้งการลุกลามของมะเร็งบางชนิดได้
8 น้ำใบย่านาง
สมุนไพรฤทธิ์เย็นที่จัดได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ สามารถนำมาทำเป็นน้ำสมุนไพรดื่มได้ ซึ่งสรรพคุณนั้นมีอยู่มากมาย อาทิ ช่วยชะลอความชรา เพราะในใบย่านางนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ช่วยลดความอ้วน อีกทั้งยังช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้เช่นกัน
9 น้ำดอกอัญชัน
ดอกอัญชันนิยมนำไปเป็นสีผสมอาหารในขนมไทย อย่างเช่น ขนมน้ำดอกไม้ ขนมชั้น นอกจากนั้นยังสามารถนำดอกอัญชันมาทำเป็นเครื่องดื่ม โดยในดอกอัญชันจะสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งได้นั่นเอง
10 น้ำใบบัวบก
อีกยาอายุวัฒนะในกลุ่มสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่นำมาเป็นเครื่องดื่มได้ ในใบบัวบกประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ, วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม และกรดอะมิโนที่จำเป็น มีสรรพคุณสามารถดับร้อนในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอในปริมาณที่สูง ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทั้งนี้ ใบบัวบกยังช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันและยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้
11 น้ำเก็กฮวย
เครื่องดื่มสมุนไพรรสชาติหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ มีสรรพคุณช่วยดับร้อนในร่างกาย ช่วยลดอาการร้อนใน อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและดูดซับสารก่อมะเร็ง
12 น้ำตะไคร้
สมุนไพรกลิ่นหอมนิยมนำมาประกอบอาหารและสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มแก้ดับกระหายได้ ตะไคร้อุดมไปด้วยเกลือแร่และประโยชน์อื่นๆ อาทิ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินเอ จึงมีสรรพคุณช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า แก้อาการจุกเสียด ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ และยังสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย
13 น้ำฝรั่ง
ผลไม้วิตามินเอและวิตามินซีสูง ทั้งยังมีสารเบต้าคาโรทีน ที่ช่วยลดสารพิษในร่างกาย มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันจับที่ผนังหลอดเลือด
14 น้ำมะนาว
นอกจากเป็นแหล่งวิตามินซีแล้ว ประโยชน์น้ำมะนาวยังเป็น antioxidant ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุมกันแก่ร่างกาย นอกจากนี้ เมล็ดที่มีรสขมยังช่วยขับเสมหะ และรากมะนาวที่มีรสปร่าก็ช่วยแก้สติหลงลืมได้ตามตำรารักษาโรค
15 น้ำนมถั่วเหลือง
ในนมถั่วเหลืองมีสารกลุ่มไอโซพลาโวน (isoflavone courmarin derivative) จำนวนมาก ซึ่งสารดังกล่าวทำหน้าที่เป็น phytoestrogen ต้านทานการเสี่ยง "โรคมะเร็งเต้านม" ที่เกิดจากการกระตุ้นของเอสโตรเจน และยังพบสารเจนิสทีน ที่เป็นสารในกลุ่มไบโอพลาโวบอยด์ ที่มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็ง โดยไม่ให้ร่างกายสร้างหลอดเลือดฝอยที่จะส่งอาหารไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง
ทั้งหมดคือ 15 เครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง กินแล้วดีต่อร่างกาย ที่เราคัดสรรมาให้เพราะมีประโยชน์ ทว่า ไม่ได้ช่วยรักษาโรคมะเร็งให้หายได้ และการเติมสารให้ความหวาน การปรุงรส หรือปรุงแต่งสิ่งต่างๆ เพื่อความอร่อย อาจให้โทษแแบบที่เราไม่รู้ตัว เช่น การเติมน้ำตาล นมข้นหวาน ครีมเทียม ไซรัป คาราเมล เกลือ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการก่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิต ไขมันในหลอดเลือด โรคไต หรือโรคมะเร็ง จึงแนะนำให้ปรับวิธีการปรุงแต่งให้น้อยลง เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติของพืชผักผลไม้หรือสมุนไพรเหล่านั้นอย่างแท้จริง อีกทั้งยังได้สรรพคุณบำรุงสุขภาพแบบเต็มๆ ซึ่งจะเป็นประโชนช์มากกว่าอย่างแน่นอน