
29 พฤศจิกายน 2566 จากกรณีโรคเบาหวานเป็นเหตุ นายสุเวศน์ (สงวนนามสกุล) หนุ่มใหญ่ พกบัตรข้าราชการคุมประพฤติ ซิ่งเก๋งพุ่งชนคู่กรณี จนรถพลิกคว่ำในอุโมงค์ท่าพระ พบถือกระป๋องเบียร์เดินเซ แต่เป่าวัดแอลกอฮอล์ ไม่พบว่าเมา หรือมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ตำรวจจึงส่งตรวจเลือดที่โรงพยายาบาล
ในเวลาต่อมา เพื่อนร่วมงานของ นายสุเวศน์ ได้ให้ข้อมูลว่า ตัวผู้ก่อเหตุนั้นป่วยเป็นโรคเบาหวาน มักจะมีอาการน้ำตาลตกอยู่บ่อยครั้ง โดยเพิ่งย้ายเข้ามาทำงานด้วยกันได้ประมาณ 1 ปีกว่า ซึ่งมีอาการมาโดยตลอด ทราบว่าเข้ารับการรักษาด้วยการฉีดอินซูลินอยู่ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีอาการกำเริบบ่อยครั้ง โดยอาการที่เป็นคือจะพูดไม่รู้เรื่อง มีอาการลอยๆ ไม่ได้สติ บางครั้งก็ฟุบหลับไปเลย ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด “หมอหมู” รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โพสต์ข้อความเตือนเรื่อง “โรคเบาหวาน” กับ ความเสี่ยงอุบัติเหตุร้ายแรง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอหมู วีระศักดิ์” มีรายละเอียดระบุว่า...
ป่วยเบาหวาน วูบน้ำตาลตก เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
ขอนำเรื่องนี้มาเตือนภัยกับผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกท่านนะครับ จากกรณี จนท. คุมประพฤติ ขับเก๋งชนคว่ำ โดยผลตรวจแอลกอฮอล์เป็น 0 และพบว่าที่แท้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีอาการวูบจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ยารักษาโรคเบาหวาน การอดอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไป หรือการดื่มแอลกอฮอล์
ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจมีอาการเหงื่อออกมาก ใจสั่น อ่อนเพลีย สับสน หรือหมดสติ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากมีอาการนี้ ควรรีบรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำผลไม้ น้ำหวาน หรือน้ำตาล และพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุจราจรได้ หากผู้ที่มีโรคเบาหวานขับรถโดยไม่สังเกตอาการเตือน หรือไม่ได้รับประทานอาหารก่อนขับรถ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับรถหมดสติ หรือสับสน จนไม่สามารถควบคุมรถได้
ดังนั้น ผู้ที่มีโรคเบาหวานควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด และรับประทานอาหารที่เหมาะสมก่อนขับรถ และหากมีอาการเตือนของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรหยุดรถและรับประทานอาหารหวาน ๆ ทันที หรือขอความช่วยเหลือจากการแพทย์ฉุกเฉิน