svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Lifestyle

เคล็ดลับสุขภาพ : ชวนดูแลสุขภาพสตรีวัยทอง แก้อาการยอดฮิตด้วยศาสตร์แผนไทย

เปิดวิธีการช่วยบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์สำหรับ "สตรีวัยทอง" กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แก้ได้ด้วยยาสมุนไพร หัตถการการนวด ประคบสมุนไพร และการอบไอน้ำสมุนไพร

ภาวะวัยหมดประจำเดือน หมายถึง ช่วงเวลาที่สตรีไม่มีประจำเดือนอีกต่อไปเมื่อรังไข่หยุดทำการผลิตไข่ วัยหมดประจำเดือนจะสมบูรณ์เมื่อประจำเดือนไม่มาติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม วัยหมดประจำเดือนเกิดขึ้นได้ระหว่างอายุ 45-55 ปี และ "เฉลี่ยที่ 51 ปี"

แต่ในผู้หญิงบางรายอาจเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนกำหนด เพราะเกิดจากภาวะที่รังไข่ผลิตฮอร์โมนน้อยลงจนหยุดทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมน กรณีเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนกำหนด (อายุน้อยกว่า 40 ปี) อาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น

  • ประวัติคนในครอบครัวเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็ว
  • โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตนเอง ความผิดปกติของโครโมโซม X
  • การรักษาพยาบาล (การผ่าตัดเชิงกราน การผ่าตัดเอารังไข่ออก การใช้เคมีบำบัดหรือการใช้รังสีรักษาทางเชิงกราน) การใช้ยาที่มีผลทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
  • การสูบบุหรี่

อาการที่สังเกตได้ว่าเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

  • ประจำเดือนมาห่างออกและไม่สม่ำเสมอทุกรอบเดือน
  • ร้อนวูบวาบโดยเฉพาะส่วนบนของร่างกาย เหนื่อยง่าย ใจสั่น หรือมีเหงื่อออกตอนกลางคืน บางครั้งมีอาการหนาวสั่นโดยไม่มีสาเหตุ
  • มีความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์เร็ว รู้สึกวิตกกังวล หดหู่ใจ ความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งกดดันในชีวิตประจำวันลดลง ไม่มีสมาธิ มีอาการหลงลืม
  • นอนหลับยาก แต่ตื่นเช้า
  • ผิวหนังร่างกายแห้งและบางลง บางครั้งมีอาการคัน เกิดผื่นแพ้ง่าย เส้นผมหยาบแห้ง หลุดร่วงง่าย ไม่ดกดำเป็นเงางาม
  • รู้สึกช่องคลอดแห้งและรู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ความต้องการทางเพศลดลง
  • ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ หรือมีปัสสาวะเล็ดราด
  • ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ อ่อนเพลีย

ทางเลือกการรักษาทางการแพทย์ปัจจุบัน

  1. การให้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อลดอาการร้อนวูบวาบ รู้สึกระคายเคือง
  2. การให้ยารักษาตามอาการหากมีอาการไม่สุขสบายมาก เช่น ให้ยาแก้ปวดถ้าผู้ป่วยปวดศีรษะหรือปวดข้อ หรือให้ยาทางจิตประสาทหากมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เป็นต้น
  3. การปฏิบัติตัวเพื่อลดการเกิดโรคหัวใจและโรคกระดูกพรุน
  4. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้ งาดำ ปลาเล็กปลาน้อย ลดอาหารที่มีแป้งและไขมันสูง
  5. จำกัดปริมาณคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
  6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น ว่ายน้ำ โยคะ รำมวยจีน เต้นรำ เดินหรือวิ่งเบาๆ เพื่อลดการกระแทกของข้อเข่า
  7. จัดการกับความเครียด
  8. ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เช่น ตรวจมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ตรวจหาความหนาแน่นของมวลกระดูก เป็นต้น

ทั้งนี้ มีเทคนิคการป้องกันที่แพทย์แนะนำคือ การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยให้ร่างกายเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนได้ช้าลง

เคล็ดลับสุขภาพ : ชวนดูแลสุขภาพสตรีวัยทอง แก้อาการยอดฮิตด้วยศาสตร์แผนไทย

การแพทย์แผนไทยกับวัยทอง

ทางด้านนายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบายว่า อาการวัยทอง เป็นภาวะของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากการเพิ่มขึ้นของอายุ ซึ่งเป็นผลมาจากรังไข่หยุดทำงานทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงผลิตน้อยลง ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองมักจะมีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกง่ายในเวลากลางคืน  มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดเข่า ผิวหนังแห้ง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย  ขี้โมโห ขี้หลงขี้ลืม ปวดศีรษะบ่อย วิงเวียน เป็นลมง่าย เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่ค่อยสุด ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มากะปริดกะปรอย ความรู้สึกทางเพศเสื่อมถอยไปจนถึงไม่มีเลย รวมไปถึงปัญหาที่สำคัญ คือ นอนไม่หลับ โดยอาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันอีกด้วย

สาเหตุ "เลือดจะไปลมจะมา"

อาการที่พบในสตรีวัยทอง มักเกิดจากการเสียสมดุลของธาตุทั้ง 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุลมและธาตุไฟ (เลือดจะไปลมจะมา) เป็นภาวะที่ธาตุไฟ หรือความร้อนในร่างกายกำลังลดลง ในขณะเดียวกันธาตุลมก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งธาตุลมมีความสัมพันธ์กับอาการวิตกกังวล คิดมาก นอนไม่หลับ ซึมเศร้า ปวดชาตามมือตามเท้า ผิวหนังแห้ง ช่องคลอดแห้ง วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น การรักษาจึงเน้นไปที่การปรับสมดุลของระบบเลือดลม ระบบประสาท การบำรุงโลหิต บำรุงเลือดลมให้บริบูรณ์ ทั้งการใช้สมุนไพรและตำรับยาแผนไทย

 

การใช้สมุนไพรคุมธาตุลมไม่ให้กำเริบหรือมีมากเกินไป ได้แก่

1) กลุ่มยาหอม เช่น ยาหอมเทพจิตร บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ ยาหอมแก้ลมวิงเวียน แก้ลมวิงเวียน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ยาขิง บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม แน่นจุกเสียด

2) กลุ่มยาบำรุงเลือด เช่น ยาลูกแปลกแม่ (ตำรับยาแผนโบราณ ประกอบด้วยสมุนไพร 3 ชนิด คือ กล้วยน้ำไท 1 หวี พริกไทย 1 กำมือ มะตูมนิ่ม 1 ผล) มีสรรพคุณ บำรุงเลือดลมสตรี กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ และเป็นยาอายุวัฒนะ กวาวเครือขาว บรรเทาอาการของสตรีวัยทอง เช่น อาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย กระสับกระส่าย ช่องคลอดแห้ง และประจำเดือนมาไม่ปกติ ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและอารมณ์ เนื่องจากมีสารที่มีโครงสร้างทางเคมีและออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง (ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งมดลูก และ มะเร็งเต้านม หรือเนื้องอกที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ควรใช้)

3) กลุ่มยาบรรเทาอาการในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด ได้แก่ ชากระเจี๊ยบแดง และชาตะไคร้ สำหรับสตรีวัยทองที่ประสบปัญหาสุขภาพอื่นๆ สามารถขอเข้ารับการรักษาหรือปรึกษากับแพทย์แผนไทย เพื่อบรรเทาปัญหาของสตรีวัยทอง ยังมียาสมุนไพรตำรับอื่น หรือการใช้ยาปรุงเฉพาะรายเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล

 

ความผ่อนคลายช่วยได้

หัตถการ การนวดและประคบสมุนไพรจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามตัว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และหัตถการการอบไอน้ำสมุนไพรโดยมีข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่ากลุ่มผู้ที่อบไอน้ำสมุนไพรจะมีคุณภาพการนอนหลับที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำหัตถการอบไอน้ำสมุนไพร สำหรับการอบไอน้ำสมุนไพรสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รวมถึง ยังมีผลดีกับระบบทางเดินหายใจอีกด้วย

นอกเหนือจากการใช้ยาสมุนไพร การนวดและประคบสมุนไพร การอบไอน้ำสมุนไพร สตรีวัยทองยังต้องดูแลทั้งเรื่องการรับประทานอาหารที่ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การออกกำลังกายควรเป็นรูปแบบช้า ๆ เช่น ฤาษีดัดตน มณีเวช โยคะ ชี่กง ว่ายน้ำ เดินเบาๆ พร้อมทั้ง ฝึกการควบคุมอารมณ์ ฝึกทำสมาธิบำบัด งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

 

 

ที่มา : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก / โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์