svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

หมอดื้อเตือน สารให้ความหวานในเครื่องดื่มไร้น้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์

19 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เตือนเรื่องสุขภาพวันนี้ ระวังกินสารให้ความหวานในเครื่องดื่มไร้น้ำตาลเสี่ยงต่อโรคหัวใจวาย โรคอัมพฤกษ์ ล่าสุดหมอดื้อ เผยภาวะสุขภาพในคนที่ได้รับสารหวาน ระบุเริ่มมีรายงาน ถึงผลที่อาจไม่พึงประสงค์ และกลับมีโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่สามารถอธิบายได้

โพสต์ให้ความรู้ชุดล่าสุดจากหมอดังในโลกโซเชียลวันนี้  "หมอดื้อ" หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสเฟซบุก๊ส่วนตัว (ธีระวัฒน์เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความเกี่ยวกับสารหวานในเครื่องดื่ม และความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ว่า

หมอดื้อเตือน สารให้ความหวานในเครื่องดื่มไร้น้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์

สารหวานในเครื่องดื่ม ไร้น้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์

นับเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีมาแล้วที่มีการใช้สารน้ำตาลเทียม เพิ่มหรือแทนความหวานที่ได้จากน้ำตาล ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองกับคนที่มีโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่เรียกว่า เมตาบอลิก ซินโดรม (Metabolic syndrome) ที่เป็นกลุ่มอาการที่จะต่อติดต่อเนื่อง ตามกันมา

 

จากอ้วน ดื้ออินซูลิน เบาหวาน ไขมันสูง มีภาวะเส้นเลือดผิดปกติและนำไปสู่โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ จนกระทั่งถึงมะเร็ง ด้วยการที่มีสารอักเสบก่อตัวในร่างกาย ทุกระบบและในสมอง จนเร่งสมองเสื่อมให้เกิดขึ้นเร็วและรุนแรง และพิสูจน์แล้วว่าเร่งความแก่ชราให้มากขึ้นและสารทดแทนเหล่านี้ ได้มีการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรกลางต่าง ๆ ที่ทำการประเมินและมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก


อย่างไรก็ดี การติดตามภาวะสุขภาพในคนที่ได้รับสารหวานเทียมเหล่านี้ เริ่มมีรายงานออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ในปี 2000 เป็นต้นมา ถึงผลที่อาจไม่พึงประสงค์ รวมทั้งแทนที่จะเกิดประโยชน์ กลับมีโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่สามารถอธิบายได้ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับเส้นเลือดตีบ แต่เนื่องจากเป็นการศึกษาที่ไม่ทอดระยะเวลานานนัก และไม่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์หรือการเป็นสาเหตุได้ชัดเจน เนื่องจากมีตัวแปรและปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ข้อมูลยังมีความคลุมเครืออยู่

จากรายงานในวารสาร เนเจอร์ 27 กุมภาพันธ์ 2023 เป็นงานต่อเนื่องตั้งแต่การค้นพบความสัมพันธ์ของจุลินทรีย์ในลำไส้ กับการอักเสบ และเส้นเลือดตันที่รายงานในวารสารนิวอิงแลนด์และเนเจอร์ในปี 2013 ที่ตอกย้ำพิสูจน์ว่าการกินเนื้อแดง และไข่แดงจะเชื่อมโยงกับจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียไม่ดีในลำไส้ ที่สกัดและผลิตสารอักเสบออกมาชื่อ TMA และ TMAO ทั้งนี้ การลดการกินเนื้อและไข่แดง โดยที่หนักผัก ผลไม้ กากใย ถั่ว จะระงับการอักเสบดังกล่าว และเริ่มพบว่าสาร polyols ก็มีความสัมพันธ์ร่วม
หมอดื้อเตือน สารให้ความหวานในเครื่องดื่มไร้น้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์

งานในปี 2023 นี้พบว่าสาร erythritol ซึ่งอยู่ในกลุ่ม polyol ทำให้เกล็ดเลือดไวขึ้น จนเพิ่มความเสี่ยงของเส้นเลือดตัน
 

การศึกษาเริ่มจากเป็น un targeted metabolomics ในคน 1,157 รายที่มาประเมินความเสี่ยงของเส้นเลือดหัวใจ (discovery cohort) โดยได้ทำการสวนเส้นเลือดหัวใจ จนพบว่าระดับของสาร polyol โดยเฉพาะ erythritol สัมพันธ์กับโรคหัวใจและอัมพฤกษ์มากขึ้นหลังจากติดตามสามปี จากการตรวจด้วย GC-MS แต่ทั้งนี้ บอกได้คร่าวๆ และยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับระดับปริมาณที่ชัดเจนได้

การศึกษาต่อมาเฉพาะเจาะจง targeted metabolomics คนอเมริกัน 2,149 ราย และคนในยุโรป 833 ราย (validation cohort) ที่มาตรวจประเมินความเสี่ยงของโรคหัวใจ โดยมีข้อมูลความรุนแรงและการติดตามก่อนหน้านั้นหลายปี โดยใช้ตัวอย่างเลือดในคนอเมริกันจากรายงานของปี 2013 และควบรวมกับคนในยุโรป

พบความสัมพันธ์ชัดเจนระหว่างระดับของ erythritol กับความเสี่ยงที่สูงขึ้น จากการตรวจด้วย LC-MS (fourth versus first quartile adjusted hazard ratio (95% confidence interval), 1.80 (1.18-2.77) and 2.21 (1.20-4.07), respecti vely) และการทดสอบการทำงานของเกล็ดเลือดพบว่ามีการกระตุ้นเพิ่มขึ้น ทั้งในหลอดทดลองและเพิ่มการเกิดเส้นเลือดตันในหนูทดลอง

การศึกษาต่อมา (interven tion study) เฉพาะเจาะจงโดยที่มีอาสาสมัคร 8 ราย กิน erythritol 30 กรัม ที่เป็นขนาดปกติในเครื่องดื่มหรือในไอศกรีมคีโต พบระดับในเลือดสูง ลอยมากอยู่จนถึงสองวันถัดมา ในผลิตภัณฑ์อาหารที่พบอยู่ได้ทั่วไปนั้น จะมีปริมาณของสาร erythritol ในขนาดสูงมากกว่า 30 กรัมด้วยซ้ำ เพื่อเพิ่มความหวานให้มากขึ้น โดยที่อาจไม่ได้มีการระบุปริมาณที่ชัดเจนเนื่องจากถือว่าเป็นสารปลอดภัย

สำหรับผลที่ได้จากรายงานนี้ อาจต้องมีการหาความ สัมพันธ์เป็นเหตุเป็นผลเพิ่มขึ้น แม้ว่าการทดลองในราย งานนี้จะมีผลการศึกษาในหนูทดลองรวมกระทั่งถึงในอาสาสมัคร แม้ว่าจะมีจำนวนน้อยเพียง 8 ราย แต่การทดสอบของเกล็ดเลือดนั้นแสดงถึงปฏิกิริยาที่สูงขึ้นในระดับที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเส้นเลือดได้
 

หมอดื้อเตือน สารให้ความหวานในเครื่องดื่มไร้น้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์

คณะผู้วิจัยได้จุดประเด็นที่ควรต้องทำต่อจากนี้ ก็คือการที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆนั้นควรที่จะแสดงปริมาณของสาร erythritol ทั้งนี้อาจจะเป็นสารเดี่ยวที่ใส่เข้าไปหรือใส่เข้าไปร่วมกับสารที่เสมือนมาจากธรรมชาติ เช่น จาก Monk fruit หล่อฮั่งก้วยและ Strevia หญ้าหวาน ที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 200 ถึง 400 เท่า และในผลิตภัณฑ์ต่างๆนั้นอาจเพิ่มเติม erythritol เพื่อให้สะดวกแก่การผลิตในรูปของการบริโภคสำเร็จ

แต่จะรอให้มีการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงในอนาคตจากข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 นี้ ซึ่งไม่ทราบว่าจะต้องรอเวลาไปอีกกี่เดือนหรือกี่ปี

ควรหรือไม่ ที่ผู้บริโภคอาจจะต้องเตรียม ตัวเอง ในการเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น โดยความหวานที่ได้จากผักผลไม้ ที่ต้องกินโดยที่เป็นในรูปของกากใยด้วย เป็นชิ้นเป็นผลเป็นเนื้อ ซึ่งไม่ใช่คั้นเอาแต่น้ำและทิ้งกากใย ออกไป ในรูปลักษณะนี้ ความหวานที่ได้จะปลอดภัย และแม้ว่า erythri tol จะมีการสังเคราะห์ ขึ้นเองในร่างกายตามธรรมชาติ (endogenous) 

แต่ปริมาณที่เกิดขึ้นจะน้อยกว่าหรือต่ำกว่าปริมาณที่มีผลกระตุ้นและทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นเลือดมาก

ความจำเป็นที่ต้องเข้าใกล้ธรรมชาติ เข้าใกล้มังสวิรัติ ลดแป้ง เนื้อสัตว์ แทนด้วยปลา และหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนด้วยสารเคมีและสารทดแทนเป็น เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและไม่เป็นภาระต่อตนเองครอบครัว สังคม และประเทศ


หมอดื้อเตือน สารให้ความหวานในเครื่องดื่มไร้น้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์ 9 ข้อควรรู้ เพื่อป้องกันโรคอัมพฤกษ์-อัมพาต

โรคอัมพฤกษ์ โรคอัมพาต เป็นโรคที่น่ากลัวในกลุ่มผู้สูงอายุอย่างยิ่ง เพราะวัยนี้เป็นวัยที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคทางสมองมากกว่าวัยอื่น หากเป็นแล้วจะทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง ขยับตัวไม่ได้ เสี่ยงต่อการเป็นผู้ป่วยติดเตียง และยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในอันดับต้น ๆ

แม้โรคนี้จะเป็นโรคที่ดูน่ากลัวแต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ และควรทำความเข้าใจโรคนี้เพื่อให้ตัวเรา และคนในครอบครัวห่างไกลจากโรคร้ายนี้ได้ 

 

มาดู 9 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตเพื่อลดความเสี่ยงของโอกาสการเกิดโรคนี้กัน

1. อัมพฤกษ์ อัมพาตคืออะไร

อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ cerebrovascular accident (CVA) เป็นอาการของโรคหลอดเลือดในสมอง หรือ Stroke เกิดจากการที่เซลล์สมองขาดเลือด โดยมีสาเหตุจากภาวะหลอดเลือดสมองตีบและอุดตัน (ischemic stroke หรือ thrombosis)  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมากถึง 80% และอีก 20 % คือสาเหตุจากการมีเลือดออกในสมอง (bleeding หรือ haemorrhage)

2. อัมพฤกษ์ อัมพาต ต่างกันอย่างไร

โรคทั้งสองเป็นโรคที่เราได้ยินชื่ออยู่บ่อย ๆ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตเป็นคนละโรคกัน โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้

โรคอัมพฤกษ์ คือ ภาวะที่แขน หรือขาอ่อนแรง แต่ยังพอใช้งานได้ เกิดความรู้สึกชาตามอวัยวะต่าง ๆ เป็นบางครั้ง
โรคอัมพาต คือ ภาวะที่แขน หรือขาไม่มีแรง ใช้งานไม่ได้ กล่าวคืออัมพฤกษ์จะยังสามารถขยับร่างกายได้ แต่อัมพาต ไม่สามารถขยับได้เลย

3. อาการของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

อาการสมองขาดเลือดจะมีความรุนแรงของโรคที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการเป็น ดังนี้

อาการน้อย เซลล์สมองยังไม่ถูกทำลาย โดยจะเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงขึ้นเฉพาะจุด เช่น อาจจะเป็นที่แขนอย่างเดียว หรือที่ขาอย่างเดียว เป็นต้น นอกจากนี้จะมีอาการเคลื่อนไหวช้าลง มุมปากตก อมน้ำไว้ในปากไม่ได้ ความจำเสื่อมชั่วขณะ พูดไม่ชัด
อาการอัมพฤกษ์ เซลล์สมองถูกทำลายไปแล้วบางส่วน โดยจะมีอาการตามัว สูญเสียความทรงจำ หงุดหงิดง่าย ความสามารถในการตัดสินใจ และการคำนวณลดลง เป็นต้น
อาการอัมพาต เซลล์สมองถูกทำลายถาวร โดยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง หรือไม่สามารถขยับได้ พูดไม่ได้ กล้ามเนื้อหน้าทำงานไม่เท่ากัน หนังตาตก ตอบสนองช้า เป็นต้น

4. ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

โรคหลอดเลือดสมองไม่ได้น่ากลัวเฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงจะสามารถเป็นได้ตั้งแต่อายุมากกว่า 45 ปี โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น

5. ความดันโลหิตสูงเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตก

ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองทั้งหลอดเลือดสมองตีบ และแตก โดยโรคหลอดเลือดสมองแตกมักมีสาเหตุจากความดันโลหิตสูงเป็นส่วนใหญ่

6. เส้นเลือดสมองตีบรักษาได้ไหม

โรคเส้นเลือดสมองตีบสามารถรักษาให้หายได้หากได้รับการรักษาที่ทันท่วงที โดยแพทย์จะมีการรักษาที่หลากหลาย ทั้งการให้ยาสลายลิ่มเลือด (Tissue plasminogen activator, tPA) ทางหลอดเลือดดำภายในเวลา 4.5 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ หรือการทำ Mechanical Thrombectomy คือการใช้สายสวนเข้าไปในหลอดเลือดสมองเพื่อนำก้อนเลือดที่อุดตันออกมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น หรือสามารถรักษาให้กลับมาใกล้เคียงปกติได้มากขึ้น

7. โรคหลอดเลือดสมองสามารถตรวจได้ไหม

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นโรคที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน จึงไม่สามารถตรวจได้ว่าเราจะเป็นโรคนี้หรือไม่ แต่สามารถตรวจหาความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง

8. การป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

งดการดื่มสุรา และสูบบุหรี่
หมั่นออกกำลังกายเพื่อรักษาน้ำหนักให้ตรงตามเกณฑ์เสมอ
หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรควบคุมให้น้ำตาลในเลือด และความดันโลหิตเป็นปกติ
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และลดอาหารที่มีรสเค็ม หรือหวานจัด
หมั่นตรวจสุขภาพ และพบแพทย์เป็นประจำเพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

9. สัญญาณอัมพฤกษ์ อัมพาต

  • มีอาการชา หรือแขนขาอ่อนแรง
  • ตามัว หรือมองไม่เห็น
  • พูดไม่เข้าใจ หรือพูดไม่รู้เรื่อง
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง

หากเกิดอาการเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์ภายใน 4.5 ชั่วโมง เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที

โรคอัมพฤกษ์ อัมพาตเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงพิการ และเป็นโรคที่ไม่มีสัญญาณเตือน หากพบว่าคนใกล้ชิด หรือคนในครอบครัวมีอาการเข้าข่ายของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

ขอขอบคุณที่มา : โรงพยาบาลเพชรเวช 
 

logoline