
แสงแดด ประกอบด้วยคลื่นความถี่ของรังสีที่แตกต่างกันตามความยาวคลื่น รังสียูวีมีความยาวคลื่นสั้นในช่วง 280-400 นาโนเมตร และรังสีอินฟราเรดหรือที่เรียกกันว่ารังสีความร้อนมีความยาวคลื่นยาวอยู่ในช่วง 700 นาโนเมตร - 1 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรังสีที่ก่อให้เกิดอันตรายและสร้างความเสียหายต่อผิวของเรา ยิ่งความยาวแสงมากจะยิ่งส่งผลให้เกิดคลื่นความร้อน (Heat wave) มากขึ้น ทางด้าน แพทย์หญิง กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แนะวิธีดูแลสุขภาพผิวหน้าให้พร้อมเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด
ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวดังนี้
ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือสถานที่ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดหรือไอความร้อนโดยตรง แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องมีวิธีป้องกันตัวเอง โดยเริ่มจากการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด เลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ใช้อุปกรณ์ป้องกันแสงแดดอย่างร่ม แว่นตา และหมวก หรือหากจำเป็นต้องทำกิจกรรมที่ต้องเจอไอความร้อนอย่างการทำอาหารหน้าเตาไฟก็ควรสวมหน้ากาก และสวมปลอกแขนทุกครั้ง
หากร่างกายมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงควรหาวิธีลดอุณหภูมิผิวให้เย็นลง โดยหาผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามข้อผับ และส่วนต่างๆ ของร่างกาย เปิดพัดลมเพื่อช่วยให้เกิดความเย็น แต่ไม่แนะนำให้เข้าห้องแอร์ทันที เนื่องจากร่างกายอาจปรับอุณหภูมิไม่ทันและความเย็นของแอร์จะมาพร้อมกับความแห้งยิ่งทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ควรดื่มน้ำสะอาดเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป การอาบน้ำก็สามารถช่วยลดอุณหภูมิผิวให้กลับมาเป็นปกติได้
นอกจากนี้การดูแลและบำรุงผิวหน้าเป็นประจำก็สามารถช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ไม่เป็นผื่นแพ้ หรือโดนทำลายได้ง่าย สามารถเริ่มได้จากการล้างทำความสะอาดผิวหน้า การสครับเพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ การมาส์กหน้าเพื่อฟื้นบำรุงผิว รวมถึงการทาครีมบำรุงเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และไม่ลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากที่พัก เพราะแสงแดดหรือไอความร้อนไม่ว่ามากหรือน้อยก็สามารถทำร้ายผิวของเราได้
ส่วนเกณฑ์การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวหน้า ควรมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงและปกป้องผิวด้วย อาทิ สารสกัดจากชิโซะ (Shiso extract) ที่มีความโดดเด่นในด้านการให้ความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพของผิว
อีกทั้งยังช่วยยับยั้งกระบวนการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin), น้ำมันข้าว (Rice Ban Oil) อุดมด้วยกรดไขมันที่เป็นประโยชน์, วิตามิน อี และสารแกมม่าออริซานอล (Gamma-Oryzanol) มอบความชุ่มชื้นพร้อมคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ ปกป้องผิวจากมลภาวะเป็นต้น