
ปัจจุบันเราต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือบางคนเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ทำให้มีช่วงเวลาในการสัมผัส ‘แสง’ มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในคลื่นแสงนี้ที่ต้องพบเจอคือ ‘แสงสีฟ้า’ ตัวการสำคัญที่จะเพิ่มความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ โดย ‘แสงสีฟ้า’ เป็นหนึ่งในความยาวคลื่นที่ประกอบกันเป็นแสงสีขาวที่เราเห็นอยู่ปกติ ซึ่งเป็นแสงที่มาจากดวงอาทิตย์ ถ้าเราเอาไปผ่านปริซึม หรือผ่านละอองน้ำในอากาศจะเห็นเป็นสีรุ้ง โดยความยาวคลื่นของแสงเริ่มตั้งแต่ช่วงสีม่วง สีคราม สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีแสด และสีแดง แสงเหล่านี้ยังมาจากทั้งจอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงแสงไฟนีออนที่ใช้ตามอาคารบ้านเรือน
ในแสงสีฟ้าค่อนข้างมีพลังงานสูง เมื่อเทียบกับความยาวคลื่นของแสงในช่วงอื่นๆ แสงสีฟ้าจึงสามารถทะลุทะลวงอวัยวะอย่างดวงตาได้ตั้งแต่กระจกตา เลนส์แก้วตา ไปจนถึงจอประสาทตาที่อยู่ลึกที่สุดและสำคัญที่สุดได้ค่อนข้างเยอะ
การปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า
เราควรป้องกันแสงแดดที่จะเข้าสู่ดวงตา หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีแสงจ้ามากๆ หรือหากจำเป็นต้องทำงานกลางแดดก็ต้องป้องกันให้แสงเข้าสู่ดวงตาเท่าที่จำเป็น เช่น การถือร่ม การใส่หมวกที่มีปีก หรือการใช้แว่นกันแดดที่ได้มาตรฐาน เพราะแสงทุกความยาวคลื่นก็อาจจะทำอันตรายกับส่วนของดวงตาแตกต่างกัน แต่แสงสีฟ้าเป็นแสงที่มีความยาวคลื่นที่มีพลังงานค่อนข้างสูงจึงอันตรายมากที่สุด
ข้อควรปฏิบัติเพื่อถนอมดวงตาเมื่อต้องปิดไฟใช้มือถือ
1. ลดความสว่างหน้าจอ
อย่างแรกเลยที่ควรทำและทำง่ายที่สุดก็คือ การปรับลดความสว่างของหน้าจอ ควรปรับให้สว่างน้อยที่สุด โดยยังคงมองเห็นตัวหนังสือและภาพบนหน้าจอได้ชัดเจนอยู่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากใช้งานในห้องที่มืดสนิท ก็อาจปรับความสว่างลงมาที่ระดับต่ำสุดเลย
หลายแอปพลิเคชั่นในปัจจุบันมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Dark Mode ที่จะเปลี่ยนอินเทอร์เฟซเป็นธีมสีดำหรือสีเข้ม ทำให้หน้าจอมีแสงสว่างน้อยลง
3. เปิดโหมดลดแสงสีฟ้า
มือถือบางรุ่นจะมีโหมดลดแสงสีฟ้า หรือ Night Mode ที่จะทำให้หน้าจอเป็นโทนอมเหลือง มีแสงสีฟ้าน้อยลง เหมาะสำหรับการใช้มือถือในช่วงเวลากลางคืน เพื่อแก้ปัญหานอนหลับยากและผลกระทบอื่น ๆ ต่อสายตา
4. ใช้แอปกรองแสงสีฟ้า
เนื่องจากโทรศัพท์มือถือหลาย ๆ รุ่นอาจจะยังไม่มีฟีเจอร์นี้ จึงมีแอปฯ สำหรับช่วยลดแสงสีฟ้าให้เลือกอยู่พอสมควร ถ้าต้องปิดไฟใช้มือถือบ่อย ๆ ก็ควรลองโหลดมาใช้ดู
5. ติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้า
ฟิล์มกันรอยมือถือในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการลดแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาขณะใช้งานมือถือได้มากขึ้น
6. ใส่แว่นกรองแสง
แว่นกรองแสง หรือแว่นกันแดด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาแสงจ้าจากการใช้มือถือในที่มืดได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นแว่นที่ใช้เลนส์กรองแสงสีฟ้าด้วยจะดีที่สุด หรือหากใครมีปัญหาสายตาและต้องใส่แว่นเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อต้องเล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การเลือกตัดแว่นแบบกรองแสงสีฟ้ามาใช้เลยก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
1. แนะนำสูตรการใช้สายตาระหว่างใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ คือ 20-20-20 แปลว่า ทุก ๆ 20 นาที ของการใช้สายตามองใกล้ ต้องหยุดพัก 20 วินาที โดยการหยุดพัก หมายถึงการมองออกไปไกล ๆ อย่างน้อย 20 ฟุต ก็จะช่วยลดการเพ่งของดวงตาได้
2. ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับดวงตา เช่น ห้องที่เราจะใช้สายตานั้น ไม่ควรจะสว่างหรือมืดจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น การปิดไฟเล่นโทรศัพท์มือถือ จะเป็นอันตรายต่อดวงตามากกว่าการเล่นในห้องที่เปิดไฟ เพราะในช่วงที่ห้องมืด ม่านตาเราจะขยาย ทำให้แสงเข้าสู่ดวงตามากเกินจำเป็น
3. เราไม่ควรนั่งใช้สายตาอยู่ในพื้นที่ที่ลมพัดแรง พัดลมเป่า หรือลมแอร์เป่า จะทำให้เกิดอาการตาแห้ง และทำให้เกิดอาการล้าและเมื่อยดวงตาได้ง่าย
4. ควรตรวจสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่มีความเสื่อมของร่างกาย เสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก ต้อหิน และจอประสาทตาเสื่อม หรือในคนที่มีกรรมพันธุ์เกี่ยวกับโรคทางดวงตา หรือคนที่ป่วยเป็นโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือรับประทานยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อดวงตา ก็อาจจะต้องไปตรวจก่อนอายุ 40 ปี
ดวงตาเป็นอวัยะที่สำคัญและบอบบาง เราควรที่จะใช้มันอย่างถูกต้องและทะนุถนอม และหากมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาก็ควรรีบไปพบกับจักษุแพทย์เพื่อรักษาอย่างทันท่วงที