
ลิ้นหัวใจมีหน้าที่อะไร
หัวใจมี 4 ลิ้น คือ ลิ้นหัวใจไมตรัล (Mitral valve) ลิ้นหัวใจเอออร์ติก (Aortic valve) ลิ้นหัวใจไตรคัสปิด (Tricuspid valve) และลิ้นหัวใจพัลโมนารี (Pulmonary valve) แต่ละส่วนมีหน้าที่หลักในการเปิดและปิดกั้นเลือดในหัวใจแต่ละห้อง ตามจังหวะการเต้นของหัวใจให้ไหลไปในทิศทางเดียวกัน และป้องกันเลือดไหลย้อนกลับทาง ซึ่งธรรมชาติได้มีการออกแบบให้ลิ้นหัวใจแต่ละส่วนมีระบบป้องกัน และทำงานทดแทนกันได้
ยกตัวอย่าง หากลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว ส่งผลให้ไม่สามารถสูบฉีด และส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้เพียงพอ จากเดิมสูบฉีดเลือด 5 ลิตรต่อนาที หากรั่วไหลย้อนทางไป 2 ลิตร จะทำให้เหลือแค่ 3 ลิตรต่อนาทีเท่านั้น หัวใจต้องเพิ่มการสูบฉีดทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ร่างกายทำงานปกติ แต่หัวใจเราจะยืนระยะได้นานแค่ไหนกันหากต้องหักโหมอย่างหนัก สักวันก็ต้องเหนื่อยและหมดแรง จึงส่งสัญญานเตือนมายังร่างกาย
อาการเตือน โรคลิ้นหัวใจรั่ว
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อ วินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
นายแพทย์ทวีศักดิ์ โชติวัฒนพงษ์ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก หัวหน้าแผนกศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาล เมดพาร์ค กล่าวถึง “โรคลิ้นหัวใจรั่ว” ไว้ว่า “ยุคก่อนหน้านี้ความตื่นตัวเกี่ยวกับโรคหัวใจไม่มากเท่าปัจจุบัน กว่าคนไข้จะมาถึงมือหมอ ความรุนแรงของโรคลิ้นหัวใจรั่วก็จะอยู่ในระยะที่ 3 หรือ 4 เกือบทั้งนั้น แทบไม่มีเลยที่จะมาหาหมอโดยไม่มีอาการนำ แต่หลังจากที่คนไข้มีความรู้และตื่นตัวมากขึ้น มีการตรวจสุขภาพทุกๆ ปี ก็สามารถป้องกัน และรับมือกับโรคลิ้นหัวใจรั่วได้ตั้งแต่ก่อนมีอาการรุนแรง”
กลัวการรักษามากกว่า… กลัวโรค
“คนไทยมีสองสิ่งที่กลัวเกี่ยวกับโรคหัวใจ หนึ่งคือกลัวการเป็นโรค สองคือกลัวการรักษา เมื่อรู้ว่าตัวเองมีภาวะลิ้นหัวใจรั่วหรือเสื่อม หลายคนเลือกที่จะมองข้ามหรือบอกตัวเองว่า ยังไหว ปรับพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย เช่น เดินให้น้อยลง พักมากขึ้น แต่ไม่ยอมเข้ารับการตรวจอย่างจริงจัง ปัญหาคือ โรคนี้เป็นโรคที่ใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการ และเมื่อเริ่มมีอาการแสดงว่าสภาพของลิ้นหัวใจเสื่อมไปมากแล้ว”
“ความกลัวเป็นเรื่องปกติ กลัวอย่างมีสติ เราต้องเข้าใจโรคว่ามันเป็นยังไง โรคนี้มีทางรักษาไหม ความกลัวของเราจะถูกตอบด้วยความรู้ที่มีสติ สำหรับคนที่เป็นโรคนี้แล้วกลัว… กลัวไม่เป็นไร แต่ขอให้มีสติ เมื่อมีสติก็จะมีปัญญา มีสติ มีปัญญา แล้วก็มีทางออก ถ้าไม่แน่ใจมาโรงพยาบาลเมดพาร์ค” วินิจฉัยให้ตรงอาการ อย่ามัวแต่ถาม Google เพราะมันแค่ผิวเผิน สู้หาหมอวินิจฉัยให้รู้ ให้หายข้องใจไปเลย ซึ่งการทำเอคโค่หัวใจ (Echocardiogram) ในสมัยนี้ทันสมัยและวินิจฉัยโรคได้ชัดเจนยิ่งขึ้น คุณหมอทวีศักดิ์กล่าว
การรักษาโรคลิ้นหัวใจรั่ว
ส่วนวิธีการเปลี่ยนลิ้นหัวใจ มีทั้ง การผ่าตัดเปิดหน้าอก เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และ การเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมให้สามารถเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมผ่านทางสายสวนหลอดเลือดได้โดยหลีกเลี่ยงการผ่าตัดใหญ่ ( Transcatheter Valve Replacement) แนวทางนี้มีประโยชน์มากกับผู้ป่วยสูงวัยที่ป่วยวิกฤตหลายโรคซึ่งทำให้การรักษามีความซับซ้อนมากกว่าปกติ ทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดใหญ่
นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาการสร้างลิ้นหัวใจเทียมที่มีกระบวนการรักษาเนื้อเยื่อที่ใช้ให้มีอายุยืนยาวและคงทนมากขึ้น ความสำเร็จในการตระเตรียมโครงสร้างลิ้นหัวใจเทียมเพื่อรองรับการรักษาผ่านสายสวนในอนาคตกรณีที่ลิ้นเสื่อมตามการทำงานและผู้ป่วยมีอายุมากขึ้น ถือเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่ง และเป็นผลดีต่อผู้ป่วยมากที่สุด
รู้ไว ซ่อมได้เร็ว
หากคนไข้ไม่เคยมีการตรวจสุขภาพมาก่อน จะไม่มีทางรู้เลยว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเมื่อปล่อยให้หัวใจทำงานอย่างหนัก ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานก็เปรียบเสมือนลูกโป่งที่ขยายเป็นเวลานาน จนไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้ ซึ่งอาจมีโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงตามมาด้วย
“คนไข้บางรายกว่าจะมาหาหมออาการของโรคก็ไประยะ 3-4 แล้ว บางรายแทบจะคลานมาหาหมอกันเลย” คุณหมอทวีศักดิ์กล่าว
ลิ้นหัวใจ เสื่อมได้ทุกวัย... อย่ารอให้อาการรุนแรง
การไม่มีอาการ ไม่ได้หมายถึงการไม่มีโรค เพราะมันคือภัยเงียบรอวันปะทุ บางคนกลัวว่าตรวจสุขภาพแล้วจะรู้ว่าเป็นโรคหัวใจ หรือเป็นโรคอื่น ควรต้องปรับความคิดกันเสียใหม่ โรคนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเสมอไป เพราะปัจจุบันก็พบมากขึ้นในผู้ป่วยช่วงอายุ 30 ต้นๆ ถึง ช่วงอายุ 90 ปลายๆ ก็ตรวจเจอ และทำการรักษาจนประสบความสำเร็จแล้วหลายราย
การผ่าตัด ซ่อมลิ้นหัวใจ ผู้ป่วยสูงวัยจะมีความเสี่ยงมากไหม ?
“ยิ่งสูงวัย ความเปราะบางในการรักษาก็สูงขึ้น” แพทย์ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก หลายคนกังวลจนไม่กล้าผ่าตัด เพราะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่และอันตราย ในจุดนี้ทีมแพทย์ต้องมีการวางแผนการรักษาด้วยความระมัดระวัง และมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น
นพ.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า “คณะแพทย์ของศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลเมดพาร์ค เราทำงานกันเป็นทีม ร่วมกันประชุมวินิจฉัยโรค วางแผนการรักษาคนไข้แต่ละรายเพื่อวิธีการรักษาที่ดีที่สุดต่อตัวคนไข้” และด้วยความชำนาญ บวกกับนวัตกรรมการเเพทย์ในปัจจุบัน อัตราความสำเร็จในคนไข้สูงวัยก็สูงขึ้น ถ้าคนไข้สู้ หมอก็สู้”
นอกจากนี้ ศูนย์หัวใจโรงพยาบาลเมดพาร์ค ยังมุ่งสู่การเป็นฮับ (Hup) รองรับผู้ป่วยทั้งชาวไทย และ จากนานาชาติ มีความพร้อมทั้ง ทีมผู้ชำนาญการด้านโรคหัวใจ และ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับ การรักษาที่เหมาะสมที่สุด และ วางแผนดูแลสุขภาพระยะยาว (Lifelong Management)
นพ.ทวีศักดิ์ ยกตัวอย่างถึงคนไข้โรคลิ้นหัวใจรั่วว่า “ในคนไข้บางราย เราจัดเตรียมทำลิ้นหัวใจให้คนไข้เผื่อในอนาคตด้วย สมมติว่าคนไข้อายุ 60 กว่า เปลี่ยน Valve ได้ในรูปแบบที่เหมาะสมในตอนนี้ เพื่อที่ในอนาคตอีก 15 หรือ 20 ปี เราก็ใช้สายสวนไปขยายลิ้นหัวใจเก่าที่ทำเตรียมไว้แล้ว เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องเสี่ยงผ่าตัดโดยไม่จำเป็น นี่คือมิติใหม่ของการแพทย์ในยุคนี้”