
ช่วงนี้สภาพอากาศในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้อากาศร้อนขึ้น คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อต้านทานกับความร้อนระอุ แต่หลายบ้านอาจไม่ได้ล้างแอร์เลย ซึ่งนอกจากปัญหาการสะสมของเชื้อโรคและฝุ่นละอองแล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศลดลง และเครื่องต้องทำงานหนักขึ้น หนึ่งในสาเหตุของค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวนั่นเอง
ไขข้อข้องใจต้องล้างแอร์ถี่แค่ไหนจึงดีที่สุด?
โดยปกติช่างแอร์มักแนะนำให้ล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน โดยเมื่อใช้งานผ่านไป 3-6 เดือน จะเริ่มสังเกตได้ว่าพัดลมแอร์อาจเริ่มมีฝุ่นเกาะหนาจนทำให้ลมไม่สามารถปล่อยออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น การล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์ที่สุด ทว่า บางบ้านอาจรู้สึกว่าเพิ่งล้างแอร์ไปไม่กี่เดือนแต่แอร์เริ่มไม่เย็นแล้ว ซึ่งปัจจัยในการล้างแอร์บ่อยครั้งแค่ไหน สามารถพิจารณาจากการใช้งาน ดังนี้
เมื่อเปิดใช้งานแอร์ตลอดทั้งวันเป็นประจำทุกวัน ในขณะที่แอร์กำลังทำงานอยู่จะมีการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่อง เพื่อหมุนเวียนและปล่อยลมเย็นออกมา ทำให้มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะภายในเครื่องได้ ส่งผลทำให้ตัวเครื่องระบายความเย็นได้ไม่ดีเท่าทีควร
หากที่อยู่อาศัยติดถนนหรือใกล้สิ่งปลูกสร้าง จำเป็นต้องล้างแอร์บ่อยครั้ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีฝุ่นละองค่อนข้างเยอะ แนะนำล้างแอร์ทุก 2-3 เดือน โดยสังเกตจากด้านหลังของคอยล์ร้อนถ้าเริ่มมีฝุ่นจับมากควรล้างทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนเกิดการอุดตัน
ข้อแนะนำ : เราสามารถล้างแอร์บ้านด้วยตัวเองง่ายๆ โดยการถอดแผ่นกรองอากาศด้านหน้ามาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า (ควรทำให้แห้งก่อนนำไปใส่) แนะนำทำอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพราะการรักษาแผ่นกรองให้สะอาดอยู่เสมอ ช่วยทำให้การกระจายลมเย็นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และช่วยยืดอายุการใช้งาน
5 ประโยชน์ของการล้างแอร์