
World Car Free Day ตรงกับวันที่ 22 กันยายนของทุกปี มีขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และรถจักรยานเพิ่มขึ้น เพื่อลดปริมาณรถยนต์ในท้องถนน อันส่งผลถึงการลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ และยกระดับคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น รวมทั้งลดปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งจะสังเกตได้ว่าหลายปีที่ผ่าน กรุงเทพมหานคร รวมทั้งในหลายจังหวัด มักมีปัญหาเรื่องค่าฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจและสุขภาพของประชาชน ปัญหาส่วนหนึ่งก็มาจากการใช้รถบนท้องถนน
- รถ 1 คัน ปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ 4 ตัน และสารก่อมลพิษอื่นๆ เกือบ 317.51 กิโลกรัมออกสู่บรรยากาศ
- ถ้าประชาชน 1 คน ใช้ระบบขนส่งมวลชนตลอด 1 ปี แทนการขับรถไปทำงาน จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเหล่านี้ออกสู่บรรยากาศ ได้แก่ ไฮโดรคาร์บอน 4.2 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์ 64.5 กิโลกรัม และไนโตรเจนออกไซด์ 2.3 กิโลกรัม การใช้รถบัสขนาด 40 ฟุต 1 คัน เทียบเท่ากับรถยนต์มากถึง 58 คัน
จากวิกฤตปัญหาน้ำมันในปี 2516 ทำให้นักอนุรักษ์ทั่วโลกหวั่นใจว่า "น้ำมัน" ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติสำคัญที่ใช้พลังงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังจะหมดไป จึงเกิดแนวคิดในการจัดงาน Car Free Day ขึ้น จากความร่วมมือของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2537 ที่ประเทศฝรั่งเศส มีประชาชนใน 848 เมือง จาก 25 ประเทศทั่วโลกออกมาร่วมกันรณรงค์
สำหรับประเทศไทย เริ่มรณรงค์ Car Free Day ครั้งแรกเมื่อปี 2543 และจัดกิจกรรมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ให้ความสนใจจัดกิจกรรม Car Free Day โดยรณรงค์ให้คนหันมาใช้รถจักรยาน รถเมล์ รถโดยสารสาธารณะ หรือรถไฟฟ้าในการสัญจร
เมื่อเป้าหมายของ Car Free ไม่ใช่เพียงแค่วันเดียว แต่เป็นการทำอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน Bangkok Car Free 2023 จึงร่วมรณรงค์เป็นเคมเปญภายใต้แนวคิด “อุปสรรค โอกาส อนาคต”
“อุปสรรค”
22 ก.ย. 66 ซึ่งตรงกับวัน Car Free Day ของทั่วโลก จะเป็นวันค้นพบ “อุปสรรค” ให้ผู้บริหาร กทม.ทุกคน รวมทั้ง ผอ.เขต ตลอดจนทูตจากหลายประเทศ เดินทางไปทำงานด้วยขนส่งสาธารณะ เพื่อรวบรวมปัญหาอุปสรรคในการเดินทาง โดยระหว่างการเดินทาง ผู้บริหารจะต้อง LIVE ผ่านระบบ Zoom จนกระทั่งถึงที่ทำงาน
“โอกาส”
23 ก.ย. 66 เป็นวันเห็น “โอกาส” เข้าใจปัญหาและมองเห็นโอกาสร่วมกันในการแก้ไข โดยอาสาสมัครร่วมกับผู้อำนวยการเขตลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง พร้อมลงข้อมูลเส้นทางที่จะปรับปรุงในฐานข้อมูล Google my maps เมื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะนำมาเผยแพร่ในกิจกรรมวันรุ่งขึ้น
“อนาคต”
24 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นวันแห่ง “อนาคต” โดยจะร่วมกันประกาศเป้าหมายสู่ Bangkok Car Free ในอนาคต ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 700 คน โดยจะมีทูตจาก 31 ประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ใช้รูปแบบการเดินทาง อาทิ เดิน จักรยาน รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง จากนั้นจะมีการพูดถึงนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดใช้รถรถยนต์ส่วนตัว
ทั้งนี้ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมหารือร่วมเป็นภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในวัน Car Free day 2023 กล่าวว่า Car Free Day เป็นวันที่ทั้งโลกจัดกันทุกปี แต่หัวใจของ Car Free Day ไม่ได้อยู่แค่วันเดียว ประเด็นคือจะทำอย่างไรให้เป็น Car Free every Day หรือทำอย่างไรให้ดีขึ้นทุกวัน ซึ่งจริงๆ แล้วควรอยู่ในหมวดการพัฒนา ทำให้เป็นเรื่องนโยบาย ซึ่งสามารถตอบโจทย์เส้นเลือดฝอยที่เกี่ยวกับการสัญจรจริงๆ ได้ด้วย รวมทั้งเป็นโอกาสสำคัญที่จะผลักดันนโยบาย เพื่อที่จะเปลี่ยนให้เมืองเรามีความเหมาะสมกับการเดินทางด้วยวิธีการอื่นที่ไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัว