องค์การสหประชาชาติ ประเมินว่า ยุโรปเผชิญหน้ากับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา ส่งผลให้ทั่วทั้งยุโรปมีอุณหภูมิสูงขึ้น นอกจากนี้ ผลพวงจากปรากฏการณ์เอลนีโญก็ยิ่งซ้ำเติมหนัก ทำธุรกิจสกีรีสอร์ตขนาดเล็กแห่งหนึ่งบนเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส ต้องปิดตัวลง เพราะไม่มีหิมะให้บริการ
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกเดือด กระทบต่อเศรษฐกิจมนุษย์อย่างไร นี่คงจะเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เราเห็นได้อย่างเด่นชัด สกีรีสอร์ตในเมือง La Sambuy จำเป็นที่จะต้องปิดตัวลงถาวร หลังเพิ่งเปิดกิจการไปเมื่อปี 2016 เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มครอบครัวและผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นสกีพื้นฐานสามารถมาสนุกกันได้อย่างง่ายและราคาย่อมเยา
ฤดูหนาวปีที่แล้ว หิมะตกลงมาเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น ทำให้มีหิมะมีปริมาณไม่มากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยว เพราะเมื่อมีปริมาณหิมะน้อย ก้อนหินและพื้นดินก็จะโผล่ขึ้นมาจนไม่สามารถเล่นสกีได้ และอาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว
แต่มาปีนี้ ยังไม่มีวี่แววของหิมะเลย และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สกีรีสอร์ตสามารถเปิดให้บริการได้ไม่ถึง 5 สัปดาห์ ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ จึงทำให้สกีรีสอร์ตขาดทุนไปแล้วมากถึง 500,000 ยูโร หรือราว ๆ เกือบ 19 ล้านบาท และเพียงแค่ลิฟต์สกี ก็มีค่าใช้จ่ายในการดูแลมากถึง 80,000 ยูโรต่อปี หรือราว ๆ 3 ล้านบาทแล้ว
เว็บไวต์ทางการของสกีรีสอร์ต La Sambuy ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ได้ทำการปิดตัวลงถาวรเมื่อวันที่ 10 กันยายน ตามการตัดสินของสภาเมือง ขอบคุณสำหรับฤดูร้อนปี 2023 ที่ผ่านมา
Mountain Wilderness กลุ่มสิ่งแวดล้อมชาวฝรั่งเศส ชี้ว่า
ในฝรั่งเศสมีการรื้อลิฟต์สกีแล้ว 22 ตัว ตั้งแต่ปี 2001 และมีการประเมินว่ายังมีลิฟต์สกีถูกทิ้งร้างอีก 106 ตัวใน 59 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้ง รายงานจากวารสาร Nature Climate Change ก็รายงานว่า 53% ของสกีรีสอร์ต 2,234 แห่งที่ได้รับการสำรวจในยุโรป มีแนวโน้มที่จะประสบกับความเสี่ยง หิมะไม่เพียงพอสูงมาก
อย่างไรก็ตาม สาเหตุการทยอยปิดตัวลงของสกีรีสอร์ตนั้นชัดเจนว่า ภาวะโลกร้อน หรือ ภาวะโลกเดือด กำลังเกิดขึ้นและเร็วขึ้น เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมได้ ผู้คนในท้องถิ่นก็ได้แต่หวังว่า เมืองจะยังคงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่อไปได้ พร้อมวอนรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางออก ก่อนที่สกีรีสอร์ตทุกแห่งในยุโรปจะต้องปิดตัวลง