svasdssvasds
เนชั่นทีวี

รักษ์โลก

เมืองศักดิ์สิทธิ์แปรปรวน พายุเข้าเมกกะ หลังเผชิญคลื่นความร้อน 50 องศา

เมกกะ เมืองศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลทรายของศาสนาอิสลาม ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ต้องเผชิญกับสภาพอากาศสุดขีดอีกครั้ง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เมื่อพายุฝนรุนแรงพัดถล่มจนน้ำท่วมฉับพลัน

เป็นที่ฮือฮาในหมู่ ชาวเน็ตซาอุดิอาระเบีย เมื่อ นครศักดิ์สิทธิ์เมกกะถูกพายุฝนฟ้าคะนองพัดถล่ม โดยในคลิปจะเห็นภาพลมพายุพัดแรงจนแท่งบาเรียเออร์สำหรับกั้นให้ผู้มาแสวงบุญพัดปลิวกระจาย ในขณะที่ทั่วเมือง ต้องเผชิญกับพายุฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน พร้อมทั้งยังมีภาพสายฟ้าฟาดไปยังหอนาฬิกากลางเมืองเมกกะ ซึ่งล้วนแต่เป็นภาพที่แทบไม่เคยปรากฎมาก่อนที่เมืองทะเลทรายแห่งนี้

เมืองศักดิ์สิทธิ์แปรปรวน พายุเข้าเมกกะ หลังเผชิญคลื่นความร้อน 50 องศา

เนื่องจากเมกกะ เป็นเมืองในทะเลทรายที่โดยเฉลี่ยแล้วมีปริมาณฝนตกต่อปีเพียง 111 มิลลิเมตรต่อปีเท่านั้น ซึ่งปริมาณฝนเพียงเท่านี้ เทียบเท่าได้กับปริมาณฝนตกหนักในกรุงเทพฯ ภายใน 1 วันเท่านั้น

เมืองศักดิ์สิทธิ์แปรปรวน พายุเข้าเมกกะ หลังเผชิญคลื่นความร้อน 50 องศา

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย รายงานว่า สภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนัก และพายุสายฟ้าได้ส่งผลกระทบหลายพื้นที่ของประเทศมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มแนวฝนและพายุรุนแรงนี้จะค่อยๆ เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก ทำให้เมืองเมกกะ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศอยู่ในทิศทางของกลุ่มพายุ และได้รับผลกระทบจากพายุไปเต็ม ๆ

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวโดย Gulf Today รายงานว่า ถึงแม้เมืองจะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและวาตภัย แต่ชาวเมืองท้องถิ่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พายุฝนครั้งนี้ถือเป็นพรและความเมตตาจากพระเป็นเจ้า หลังจากเมกกะและหลายภูมิภาคในซาอุดิอาระเบียต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 51 องศาเซลเซียสมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมืองศักดิ์สิทธิ์แปรปรวน พายุเข้าเมกกะ หลังเผชิญคลื่นความร้อน 50 องศา

  เมืองศักดิ์สิทธิ์แปรปรวน พายุเข้าเมกกะ หลังเผชิญคลื่นความร้อน 50 องศา
เมกกะ ถือเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ที่ชาวมุสลิมทุกคนล้วนมีภารกิจหลัก ต้องมาแสวงบุญซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่จากผลกระทบของสภาวะโลกร้อน กำลังทำให้เมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีสภาพอากาศเข้าใกล้นรกเข้าไปทุกที 

รายงานจาก The Saudi Gazette ระบุว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้แสวงบุญต้องเข้ารับการรักษาจากอาการป่วยจากความร้อนมากกว่า 8,400 ราย ภายหลังเมืองเมกกะต้องเผชิญอุณหภูมิร้อนจัดเฉลี่ยกว่า 44 องศาเซลเซียสในแทบทุกวัน

ผลการศึกษาจาก Yale Climate Connections ยังเผยว่า ผลกระทบโลกร้อนส่งผลให้ภูมิภาคตะวันออกกลางร้อนขึ้นไวกว่าเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก นั่นทำให้สภาพอากาศของเมืองเมกกะมีอากาศร้อนจัดกว่า 40 องศาเซลเซียส เกือบตลอดทั้งปี และร้อนสาหัสยิ่งกว่าช่วงเวลาที่ศาสดามูฮัมหมัดมีชีวิตอยู่ เมื่อหลายศตวรรษที่แล้ว และหากอุณหภูมิยังคงพุ่งสูงขึ้นเช่นนี้ ผู้แสวงบุญจะยิ่งได้รับความเสี่ยงจากโรคที่เกิดจากความร้อนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ เป็นต้น