
เป็นข่าวดังครึกโครมทีเดียว ว่าด้วย เรือสําราญสัญชาตินอร์เวย์ Hurtigruten หรือ เฮอร์ติกรูเตน จากการศึกษาวิจัยและพัฒนาการสร้างเรือสําราญลําแรกของโลกที่ใช้พลังงานหมุนเวียนและแบตเตอรี่ มีกำหนดออกเดินเรือในปี 2573 / 2030
จากข้อมูลล่าสุด ทางบริษัทฯ มีเรือจำนวน 8 ลำ โดยแต่ละลำสามารถจุบรรดาผู้โดยสารได้ 500 คน โลดแล่นไปตามชายฝั่งนอร์เวย์จากออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ไปยังอาร์กติกเซอร์เคิล
เฮดดา เฟลิน (Hedda Felin) ประธานผู้บริหารบริษัท Hurtigruten Norway หวังไว้ว่า
นวัตกรรมนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับอุตสาหกรรมการเดินเรือทั้งหมด
ที่สุดของการออกแบบ
โดยใช้พลังงานส่วนใหญ่จากแบตเตอรี่ 60 เมกะวัตต์ สามารถชาร์จในท่าเรือด้วยพลังงานสะอาด เนื่องจากพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นร้อยละ 98 ของระบบไฟฟ้าของนอร์เวย์ ผู้คิดค้นเรือที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์นี้ ประเมินว่า
แบตเตอรี่จะมีระยะทำการ 300-350 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 555 - 648 กิโลเมตร หมายความว่าระหว่างการเดินทางไปกลับ 11 วัน เรือจะต้องชาร์จประมาณ 7 หรือ 8 ครั้ง
เพื่อลดการพึ่งพาแบตเตอรี่ เมื่อมีลมแรงใบเรือหรือปีกที่ยืดหดได้ 3 ใบจะลอยขึ้นจากดาดฟ้าถึงความสูงสูงสุด 50 เมตร เเละสามารถปรับได้อย่างอิสระ หรือเปลี่ยนมุมเพื่อรับลมมากที่สุด ซึ่งใบเรือจะถูกปกคลุมด้วยแผงโซลาร์เซลล์รวม 1,500 ตารางเมตร ซึ่งจะผลิตพลังงานเพื่อเติมแบตเตอรี่ขณะเดินเรือ และระดับแบตเตอรี่จะแสดงที่ด้านข้างของเรือ ภายในเรือมีห้องโดยสาร 270 ห้อง เพื่อรองรับแขก 500 คนและลูกเรือ 99 คน
ด้วยรูปทรงที่เพรียวบาง จะส่งผลให้มีแรงต้านอากาศลดน้อยลง ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานได้มากขึ้น
ส่วนบนเรือแขกเหรื่อจะได้รับเชิญให้ลดผลกระทบต่อสภาพอากาศส่วนบุคคลให้น้อยที่สุด ผ่านแอปฯมือถือแบบโต้ตอบ ที่ตรวจสอบการใช้น้ำและพลังงานเพื่อต้องการทำให้ตระหนักมากขึ้นว่าใช้พลังงานไปมากเพียงใด
ในปัจจุบันอุตสาหกรรมการเดินเรือ มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 3 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้นทั่วโลก ตามข้อมูลขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติที่ควบคุมการขนส่งทั่วโลก ในปี 2018 IMO แนะนำเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในปี 2050
สิ่งนี้นำไปสู่การออกแบบเรือใบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่เรือขนส่งสินค้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก Oceanbird ของสวีเดน และเรือบรรทุกสินค้าหลายลำที่มีใบเรือแบบยืดหดได้ไปจนถึง เรือซูเปอร์ยอทช์ Black Pearl ของ Oceanco และเรือสำราญ Chantiers de Atlanique ที่มีใบเรือแบบพับได้ แต่ส่วนใหญ่จะพึ่งพาเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล มีการตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่าการออกแบบของ Hurtigruten Norway จะมีเครื่องยนต์สำรองเพื่อความปลอดภัย แต่จะใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น แอมโมเนีย เมทานอล หรือเชื้อเพลิงชีวภาพ
กลุ่มบริษัท Hurtigruten ได้เปิดเผยอีกว่า
การขนส่งที่ยั่งยืนมาอย่างยาวนาน ในปี 2019 Hurtigruten Expeditions ได้เปิดตัวเรือสำราญแบบไฮบริดที่รองรับแบตเตอรี่ลำแรกของโลก และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการแปลงกองเรือสำรวจที่เหลือเป็นพลังงานแบตเตอรี่แบบไฮบริด เเละ Hurtigruten Group ได้รับการจัดอันดับ ESG ที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทเดินเรือสำราญโดยผู้ให้บริการวิจัยชั้นนำอย่างยั่งยืน
ในอีกสองปีข้างหน้า Hurtigruten Norway เตรียมทดสอบเทคโนโลยีก่อนที่จะสรุปการออกแบบในปี 2026 และตั้งเป้าที่จะเริ่มการผลิตในอู่ต่อเรือในปี 2027 เรือลำแรกมีกำหนดเข้าสู่น่านน้ำนอร์เวย์ในปี 2030 หลังจากนั้น บริษัทหวังว่าจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง เรือทั้งหมดไปยังเรือที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
ที่มาข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ
An electric cruise ship with gigantic solar sails is set to launch in 2030
hurtigruten.com
fastcompany