
กระทรวงมหาดไทย จัดทำ “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” ซึ่งองค์การสหประชาชาติรับรองว่าช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ โดยคัดแยกขยะเปียกในครัวเรือน แปลงให้กลายเป็นทุนกลับคืนสู่หมู่บ้านและชุมชนในรูปแบบคาร์บอนเครดิตราคาตันละ 260 บาท มีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำการรับซื้อ
โดย “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” ปัจจุบันนำร่องใน 4 จังหวัด คือ ลำพูน สมุทรสงคราม เลย และ อำนาจเจริญ ในอนาคตวางแผนจะขยายการดำเนินการอีก 22 จังหวัด รวมเป็น 26 จังหวัด ซึ่งจะทำให้มีปริมาณคาร์บอนเครดิตที่จัดเก็บเทียบเท่าได้มากกว่า 2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ สอดคล้องกับนโยบายเศรษกิจ BCG ของไทย และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เปิดเผยว่า สถ.ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน โดยตั้งเป้าหมายให้ทุกจังหวัดมีการจัดทำถังขยะเปียกในทุกครัวเรือน ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการลดขยะที่ต้นทาง โดยมีเป้าหมายของโครงการนำไปสู่การเตรียมความพร้อมทวนสอบเพื่อรับรองคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะต้องมีการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นรายเดือนตลอดระยะเวลา 7 ปี
พร้อมทั้งแต่งตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนครอบคลุมทุกมิติการดำเนินการ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการด้านบูรณาการขับเคลื่อนในพื้นที่ คณะอนุกรรมการด้านการทวนสอบและซื้อขายคาร์บอนเครดิต คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ คณะอนุกรรมการด้านระบบสารสนเทศ และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าว ประสบความสำเร็จ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย จึงได้ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ 1) แผนปฏิบัติการ 100 วัน (1 ตุลาคม 2565 - 8 มกราคม 2566) และ 2) แผนปฏิบัติการต่อเนื่อง ซึ่งมีเป้าหมายให้ทุกจังหวัดจัดทำถังขยะเปียกฯ ครบทุกครัวเรือน ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดให้ทุกจังหวัดมีความพร้อมในการทวนสอบรอบถัดไปในปี 2566
สำหรับแผนปฏิบัติการ 100 วัน ประกอบด้วย
(1) ให้จังหวัดกำหนดแผนปฏิบัติการจัดทำถังขยะเปียกฯ ครบทุกครัวเรือน ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
(2) กำหนดเป้าหมายความพร้อมในการทวนสอบของจังหวัด
(3) ให้มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ กระตุ้น หรือสร้างความตื่นตัวในจังหวัด
(4) ให้มีการลงพื้นที่เพื่อติดตาม ตรวจนิเทศ หรือจัดกิจกรรมในพื้นที่ให้แก่ผู้บริหารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในแต่ละเดือน
(5) ให้มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ กระตุ้น หรือสร้างความตื่นตัวแก่สาธารณชนเป็นวงกว้าง รวมกับภาครัฐหรืเอกชนในส่วนกลาง
(6) ให้มีการนำเสนอผลงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนใน website กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทุกเดือนทุกจังหวัด
(7) ให้มีการนำเสนอผลงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนในสื่อต่าง ๆ เป็นประจำทุกเดือน
(8)ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนเพื่อเผยแพร่ผ่านภาคีเครือข่ายสื่อสารมวลชนทั้งส่วนกลาง และสื่อในพื้นที่ทุกช่องทาง
(9) จัดตั้งศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ
(10) กำหนดการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน อยู่ในตัวชี้วัดแผนจังหวัดสะอาด ประจำปี 2566 และตัวชี้วัดของท้องถิ่นจังหวัด ครั้งที่ 166/2565 ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2565
ทั้งนี้ โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน เริ่มต้นจากการขับเคลื่อนงานของ อปท. ซึ่งพบว่าที่ จ.ลำพูน มีการคัดแยกขยะในทุกกิจกรรมของชีวิต เช่น การจัดงานบุญและประเพณีต่าง ๆ จะไม่มีอาหารตั้งโต๊ะ แต่เป็นบุฟเฟ่ต์เป็นหม้อ ใครจะทานเท่าไหร่ก็ไปเติมตัก ภายหลังงานจะมีการคัดแยกเศษอาหารเปียกซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงพาหะนำโรคหลายชนิด ต่อมาโครงการฯ ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย คือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)
โดยมีภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาช่วยรับรองระเบียบวิธีการวิจัย (Methodology) ในการบริหารจัดการขยะของถังขยะเปียกลดโลกร้อน และส่งให้ อบก. รับรองคิดเป็นค่าคาร์บอนเครดิตร่วมกับหน่วยงานภายนอก