เมื่อหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของมนุษย์ คือ “อาหาร” กำลังเพิ่มปริมาณความต้องการมากขึ้นทั่วโลก ความจริงที่น่าตกใจคือ แม้ทุกวันนี้เราจะสามารถผลิตอาหารได้มากมายโดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ตลอดเส้นทางกว่าจะมาเป็นอาหารบนจาน หรือแม้กระทั่งหลังเรากินเสร็จแล้ว กระบวนการทั้งหมดคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ “โลกร้อนขึ้น” ซึ่งการผลิตและบริโภคอาหารทำให้โลกร้อนขึ้นก็ย้อนกลับมาทำลายความมั่นคงด้านอาหารของทุกคนเช่นกัน
รายงาน IPCC ทั่วโลกมีการผลิตอาหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตรงข้ามกันเราก็กำลังสูญเสียอาหารไปมากเช่นกัน องค์การสหประชาชาติ (UN) ประเมินว่าอาหาร 1.3 พันล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของการผลิตของโลกจะกลายเป็นขยะก่อนที่จะหมดลง ในขณะเดียวกัน ร้อยละ 10.5 ของมนุษย์กำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหาร ร้อยละ 26 เป็นโรคอ้วน และก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรมอาหาร คิดเป็นร้อยละ 25 – 30 ของการปล่อยทั้งหมดซึ่งนำไปสู่วิกฤตสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน และ UN ได้เตือนว่าเศษอาหารเพียงอย่างเดียวทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึงร้อยละ 10
Top 10 วัตถุดิบที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากที่สุดของโลก
ข้อมูลจาก Our World in Data ระบุวัตถุดิบที่ปล่อยปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากที่สุด 10 อันดับแรกของโลก โดยคิดจากปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ถูกปล่อยเข้าชั้นบรรยากาศต่อการผลิตวัตถุดิบ 1 กก. ได้แก่
ไม่ใช่เฉพาะผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้นที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพราะจากข้อมูลขององค์กรสหประชาชาติ ระบุอาหารที่สร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยที่สุด ก็คือ “อาหารจำพวกพืช” ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือพืชจำพวกถั่วต่างๆ เพราะการผลิตวัตถุดิบเหล่านี้ใช้พื้นที่ พลังงาน น้ำ และทรัพยากร “น้อยกว่า” เนื้อสัตว์
อีกด้านของอาหารจากข้อมูลของ Our World in Data อาหารที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยที่สุด 5 อันดับ ก็คือ
ทั้งนี้ ผลไม้ตระกูลส้ม และถั่วเปลือกแข็ง มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการใช้ที่ดินเป็น ‘ลบ’ โดยเฉพาะต้นถั่วเปลือกแข็งที่สามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์มาไว้ภายในต้นได้ในปริมาณที่สูงมาก จนมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการใช้ที่ดิน -3.26%
4 เทคนิคปรับการกินเพื่อช่วยโลก
source : อาหารกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
: https://ourworldindata.org/