มาร์ค รุตเตอ อดีตนายกรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์ เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมในวันอังคาร (1 ตุลาคม) หรือกว่า 3 เดือนหลังจากชาติสมาชิกลงมติแต่งตั้งเขาเพื่อดำรงตำแหน่งแทนเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก โดยเจ้าหน้าที่และนักการทูต คาดว่า เขาจะยังคงสานต่อนโยบายหลักของสโตลเตนเบิร์ก ได้แก่ ให้การสนับสนุนยูเครน, ผลักดันให้สมาชิกนาโตเพิ่มการสมทบงบประมาณด้านกลาโหม และย้ำให้สหรัฐฯ คงการสนับสนุนด้านความมั่นคงในยุโรปต่อไป
รุตเตอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หนึ่งในวาระหลักของเขา คือ การสนับสนุนยูเครน และทำให้ยูเครนยืนหยัดในฐานะประเทศที่มีอธิปไตย เอกราช และประชาธิปไตย
นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า ไม่กังวลต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐฯ เพราะเขาสามารถทำงานร่วมกับผู้สมัครคนใดก็ตามที่ชนะการเลือกตั้ง
ประเด็นผลเลือกตั้งในสหรัฐฯ ถูกจับตาด้วยความกังวลหลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า เขาอาจลดการสนับสนุนต่อยูเครน และลดการปกป้องด้านความมั่นคงแก่ชาติสมาชิกนาโต หากเขาชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้เลขาธิการคนใหม่ บอกด้วยว่า เขาจะส่งเสริมการผลิตของอุตสาหกรรมทางทหารของชาติตะวันตก และกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับชาติหุ้นส่วนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทำเนียบเครมลินของรัสเซีย แสดงความเห็นต่อเลขาธิการนาโตคนใหม่ด้วยว่า รัสเซียไม่คาดหวังว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านนโยบายของนาโตภายใต้การนำของรุตเตอ
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังหาทางจัดสรรงบประมาณที่จะสามารถสนับสนุนสงครามได้อย่างยั่งยืน หลังค่าใช้จ่ายทางทหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
รัฐบาลเผยร่างงบประมาณประจำปี 2568 เมื่อวันจันทร์ โดยจัดสรรงบด้านกลาโหม 13.5 ล้านล้านรูเบิล หรือ 4.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 32.5% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีสัดส่วนเพียง 28.3% แต่ร่างงบประมาณยังอาจมีการแก้ไขระหว่างการพิจารณาในสภา
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีปูตินลงนามในคำสั่งเมื่อวันจันทร์เรียกเกณฑ์ทหารใหม่ 133,000 นาย สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วง หลังจากเมื่อเดือนกันยายนเขาเพิ่งสั่งให้กองทัพเพิ่มจำนวนทหารอีก 180,000 นาย รวมเป็น 1.5 ล้านนาย