
กระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันอาทิตย์ระบุว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม มีคำสั่งให้เรือยูเอสเอส จอร์เจีย ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์และติดขีปนาวุธร่อนนำวิถีมุ่งหน้าไปภูมิภาคตะวันออกกลาง และกองทัพเรือ ระบุว่า เรือลำนี้ปฏิบัติการอยู่ในทะเลเมดิเตอเรเนียนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมใกล้อิตาลี
ปกติแล้วการเคลื่อนไหวหรือตำแหน่งของเรือดำน้ำติดขีปนาวุธของสหรัฐฯ จะไม่ค่อยประกาศต่อสาธารณะ และยิ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์แทบเก็บเป็นความลับอย่างสิ้นเชิง แต่การเปิดเผยครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเพื่อป้องปรามอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการหนุน ซึ่งสหรัฐฯ และอิสราเอล เชื่อว่า กำลังเตรียมปฏิบัติการล้างแค้นครั้งใหญ่ต่ออิสราเอล
อิสราเอลเตรียมเผชิญการล้างแค้นหลังจากการสังหารผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุตของเลบาอนเมื่อปลายเดือนที่แล้ว และวันรุ่งขึ้นผู้นำทางการเมืองของฮามาสถูกสังหารในกรุงเตหะรานของอิหร่าน ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล แต่อิสราเอลไม่ปฏิเสธหรือยืนยันเรื่องนี้
นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ออสตินสนทนาทางโทรศัพท์กับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราอลในวันอาทิตย์ และย้ำว่า สหรัฐฯ จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องอิสราเอล เขายังสั่งให้กองเรือจู่โจมของเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ที่อยู่ในเอเชียแปซิฟิก เร่งเดินทางไปยังตะวันออกกลาง หลังจากเรือออกเดินทางตั้งแต่ 2 สิงหาคมแล้ว แต่แวะเทียบท่าทั้งในกวมและหมู่เกาะนอร์ทเทิร์น มาเรียนา กองเรือดังกล่าวประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน และเครื่องบินขับไล่ F-35C และเรือพิฆาตหลายลำ
ส่วนกองเรือจู่โจมยูเอสเอส ทีโอดอร์ รูสเวลต์ ปฏิบัติการอยู่ในน่านน้ำตะวันออกกลางมานานหลายสัปดาห์แล้ว และเตรียมเริ่มเดินทางกลับประเทศ
กองทัพอิสราเอล รายงานในค่ำวันอาทิตย์ด้วยว่า มีจรวดเกือบ 30 ลูก ถูกยิงจากฝั่งเลบานอน ซึ่งบางลูกตกใส่พื้นที่โล่ง และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต โดยฮิซบอลเลาะห์ ระบุว่า เป็นการโจมตีเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีในภาคใต้เลบานอน