
ศาลฎีกาของบังกลาเทศมีคำพิพากษาในวันอาทิตย์ให้ลดโควตาการสงวนตำแหน่งงานราชการให้กับบุตรหลานและญาติของทหารผ่านศึก ที่ต่อสู้ในสงครามแยกตัวเป็นเอกราชจากปากีสถานในปี 2014 โดยให้ลดลงจากเดิม 30% เหลือเพียง 5% และกำหนดโควตา 1% สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ และอีก 1% สำหรับผู้พิการและกลุ่มคนเพศทางเลือก ส่วนอีก 93% ให้เป็นการคัดเลือกตามความรู้ความสามารถของบุคคล
แต่รัฐบาลยังไม่แสดงความเห็นต่อคำตัดสินดังกล่าว ขณะที่ทนายความของฝ่ายที่ต้องการให้คงโควตาไว้ แสดงความพอใจกับคำตัดสิน และเรียกร้องให้นักศึกษาที่ชุมนุมประท้วงกลับบ้านไป พร้อมทั้งขอให้มือที่สามอย่ากวนน้ำให้ขุ่น ที่จะทำให้ความขัดแย้งบานปลาย
กลุ่มนักศึกษาชุมนุมในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโควตาตำแหน่งงานราชการ และการประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นในสัปดาห์นี้ ที่มีการเผาทำลายสถานีโทรทัศน์และอาคารหน่วยงานราชการ และป้อมตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชนทั้งในกรุงธากาและหลายเมือง ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานมีผู้เสียชีวิตกว่า 150 ราย แต่สื่อต่างชาติรายงานตัวเลขที่ราว 115 ราย และเฉพาะวันศุกร์มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย นอกจากนี้ความรุนแรงในช่วงหลายวันนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน
ขณะที่โฆษกของกลุ่มนักศึกษาต่อต้านการเลือกปฏิบัติ (Students Against Discrimination) บอกว่า พวกเขาขานรับคำตัดสินของศาล แต่จะยังไม่ยุติการชุมนุมจนกว่า รัฐบาลจะออกคำสั่งตามข้อเรียกร้องของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม และการลาออกของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายผู้ประท้วงที่ทำให้เกิดการนองเลือด
ส่วนบรรยากาศในกรุงธากาค่อนข้างเงียบสงบในวันนี้ ถนนหลายสายแทบไม่มีการสัญจร เนื่องจากรัฐบาลขยายเวลาบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวที่เริ่มขั้นเมื่อวันเสาร์จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ยังมีการปะทะประปรายระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงในบางพื้นที่ ขณะที่มียานเกราะและทหารออกลาดตระเวน รวมทั้งตั้งจุดตรวจตามถนนสายต่าง ๆ
ตำรวจจับกุมสมาชิกของพรรคชาตินิยมบังกลาเทศ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด และสมาชิกของกลุ่มนักศึกษาต่อต้านการเลือกปฏิบัติ และอัยการประกาศจะนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงมาลงโทษ แต่ก็บอกด้วยว่านักศึกษายืนยันว่า พวกเขาไม่ได้ก่อความรุนแรงและวางเพลิง ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวโทษว่า พรรคฝ่ายค้านอยู่เบื้องหลังการก่อความรุนแรง