รัสส์ คุก วัย 27 ปี จากเมืองเวิร์ธธิง ของอังกฤษ วิ่งถึงเส้นชัยที่เมืองบิเซิร์ท ของตูนิเซียแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (7 เมษายน 2567) ถือเป็นการสิ้นสุดการวิ่งระยะทาง 16,000 กม. ผ่าน 16 ประเทศทางซีกตะวันตกของทวีปแอฟริกา โดยใช้เวลารวม 352 วัน ทำให้เขาได้รับการบันทึกว่าเป็นคนแรกของโลกที่วิ่งตามความยาวของทวีปแอฟริกาจากทิศใต้ไปจรดทิศเหนือได้สำเร็จ
รัสส์ คุก ซึ่งเรียกตัวเองว่า “Hardest Geezer” เริ่มวิ่งจากแหลมอะกะลัส ในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนเมษายน 2567 โดยบอกกับตัวเองไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มภารกิจสุดท้าทายครั้งนี้ว่า เขาหวังว่าเมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตของตัวเองแล้ว จะไม่มีคำว่า “เสียใจ”
เขาต้องการระดมเงินบริจาคเพื่อมอบให้การกุศล และสามารถรวบรวมเงินได้ตลอดการวิ่งเกือบ 700,000 ปอนด์ เขาบันทึกและเผยภาพการวิ่งผ่านทาง X, Instagram และYoutube และมียอดวิวมากถึงหลายล้านครั้ง
แต่กว่าเขาจะพิชิตภารกิจครั้งนี้ได้สำเร็จก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนมากมายนับตั้งแต่ออกจากบ้านในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เดิมเขาตั้งเป้าวิ่งจากตูนิเซียไปถึงแอฟริกาใต้ ซึ่งเทียบเท่ากับการวิ่งมาราธอน 360 รอบ ใน 240 วัน ไม่มีวันหยุดพัก แต่ต้องเปลี่ยนแผนในนาทีสุดท้ายด้วยการเริ่มวิ่งจากจุดใต้สุดในแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่จะทำให้เขาต้องวิ่งผ่านเมือง ป่า ภูเขา และทะเลทรายซาฮารา
หลังจากวิ่งผ่านแอฟริกาใต้และนามิเบียใน 50 วันแรก เขาก็เริ่มเผชิญอุปสรรคใหญ่ครั้งแรก โดยเขาและทีมงานถูกโจรใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ในแองโกลาในเดือนมิถุนายน ต้องสูญเสียกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ เงินสด หนังสือเดินทาง และวีซ่า
การวิ่งอย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางมากกว่าการวิ่งมาราธอนในแต่ละวัน เริ่มส่งผลต่อร่างกาย ทำให้ต้องหยุดพักเป็นครั้งแรก หลังจากแพทย์ตรวจพบเลือดและโปรตีนในปัสสาวะในวันที่ 45 และต่อมามีอาการปวดหลังซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวลที่สุด
ในวันที่ 200 เขาต้องลดระยะทางการวิ่งตามคำแนะนำของแพทย์ในไนจีเรีย แต่เมื่อหยุดพักเพื่อตรวจร่างกาย ไม่พบว่ากระดูกหัก จึงใช้ยาระงับปวดที่รุนแรงที่สุด แล้ววิ่งต่อ
หลังจากพิชิตความท้าทายมามากมาย แต่เพราะขาดวีซ่าของแอลจีเรียเพียงอย่างเดียว ทำให้การวิ่งที่ผ่านมาเกือบสูญเปล่าในวันที่ 278 เพราะหากไม่ได้รับอนุญาตให้ข้าม
พรมแดนจากมอริเตเนียไปยังแอลจีเรีย ก็ถือว่าจบ แต่สุดท้ายสถานทูตแอลจีเรียในอังกฤษ ช่วยเหลือด้วยการออกวีซ่าให้เมื่อไปถึงแอลจีเรีย
ในช่วงโค้งสุดท้ายของการวิ่ง คุกต้องวิ่งผ่านทะเลทรายซาฮารา ที่กว้างใหญ่ ไม่มีถนน และมีแต่ความเวิ้งว้าง เขาต้องวิ่งตอนกลางคืนเพื่อเลี่ยงอากาศร้อนและพายุทรายในช่วงกลางวัน
สุดท้ายเขาก็สามารถวิ่งถึงจุดหมายสุดท้าย คือ ราส อินจ์ลา ในเมืองบิเซิร์ท ของตูนิเซีย ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในแอฟริกาเหนือ โดยมีผู้สนับสนุนกลุ่มใหญ่ร่วมวิ่งไปกับเขาด้วย
คุก บอกว่า การวิ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่หนักหนาที่สุดในชีวิต แต่รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ได้พบกับผู้คนที่น่าเหลือเชื่อในทุกประเทศ ได้รับทั้งความรักและความเมตตา และจิตวิญญาณของมนุษย์เป็นสิ่งสวยงาม