ญี่ปุ่นลดสถานะโควิด คาดกระตุ้นเศรษฐกิจ 31,000 ล้านดอลลาร์
รัฐบาลญี่ปุ่นลดสถานะของโรคโควิด-19 จากโรคติดต่อระดับ 2 ที่ร้ายแรงเท่ากับโรคซาร์ส และวัณโรค สู่ระดับ 5 เท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ที่เป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายสำคัญ หลังจากพยายามควบคุมการระบาดมานาน 3 ปี ทำให้ต่อจากนี้มาตรการป้องกันโรคจะดำเนินการตามความสมัครใจของบุคคลและภาคธุรกิจ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกเลิกมาตรการควบคุมโรคเกือบหมดแล้ว ซึ่งรวมถึง การกักตัวนาน 7 วัน สำหรับผู้มีผลตรวจเป็นบวก และกักตัว 5 วัน สำหรับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และผู้ที่เข้ารับการรักษาโรคโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยในจะต้องจ่ายค่ารักษาเอง แต่จะได้รับเงินอุดหนุนสำหรับการรักษาที่มีราคาแพง โดยผู้ป่วยโควิด-19 สามารถรับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วไปได้แล้ว
การลดสถานะของโรคโควิด-19 ทำให้รัฐบาลไม่มีข้อผูกมัดตามกฎหมายที่จะต้องแนะนำให้ผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เปิดทางให้ผู้ว่าการจังหวัดสามารถร้องขอให้สถานประกอบการลดชั่วโมงการเปิดบริการ และสั่งปิดหรือลงโทษปรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม
แต่รัฐบาลยังจัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันฟรีแก่ประชาชนจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. 2567 และให้เงินอุดหนุน 148 ดอลลาร์ต่อเดือนเมื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนถึงเดือนก.ย. ปีนี้
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยไดอิจิ ไลฟ์ ประเมินว่า การลดสถานะโรคโควิด-19 จะมีส่วนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น และสร้างเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากถึง 4.2 ล้านล้านเยน หรือ 31,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินครึ่งหนึ่งหรือ 2.6 ล้านล้านเยน จะมาจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวขาเข้า และอีก 1.1 ล้านล้านเยน มาจากการผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นเพราะคนไม่ต้องหยุดงานหรือทำงานจากบ้านเท่ากับช่วงควบคุมการระบาด
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า น้กท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นจะใช้จ่ายมากขึ้นเพราะเงินเยนอ่อนค่าลง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวและการซื้อสินค้าถูกลงสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินต่างประเทศ และคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์จากจีนเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19