นายกฯ ญี่ปุ่น เยือนเกาหลีใต้ กระชับร่วมมือความมั่นคง

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น พร้อมด้วยภริยา ยูโกะ ได้รับการต้อนรับจากประธานาธิบดียุน ซอก ยอล และภริยา คิม กึน ฮี และตรวจแถวกองทหารเกียรติยศที่ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงโซลในวันอาทิตย์ (7 พ.ค.) เพื่อเริ่มต้นการเยือนกรุงโซลนานสองวัน ซึ่งเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการของผู้นำญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 12 ปี

การเยือนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดียุนเยือนกรุงโตเกียวเมื่อเดือนมี.ค. โดยสองฝ่ายคาดหวังปิดฉากความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ในอดีต ที่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมานานหลายสิบปี 

ผู้นำทั้งสองหารือร่วมกันทั้งในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือ และความท้าทายของโลกในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึง เกาหลีเหนือ และการที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำจี7 ที่เมืองฮิโรชิมา
 

ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้นในเอเชีย เช่น ภัยคุกคามด้านขีปนาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ และตกลงให้ผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีใต้เยือนญี่ปุ่นในวันที่ 23 พ.ค. เพื่อสำรวจพื้นที่สำหรับวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ก่อนที่ญี่ปุ่นจะระบายน้ำปนเปื้อนกัมมันตรัสีจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะหลอมละลายลงสู่ทะเล ท่ามกลางความวิตกว่า จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาในมหาสมุทร ความปลอดภัยของอาหาร และสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้ทั้งสองคนยังเห็นพ้องเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

ในระหว่างการแถลงข่าว ประธานาธิบดียุน กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีความสำคัญทั้งต่อผลประโยชน์ร่วมกันของสองประเทศ และสันติภาพและความมั่งคั่งของโลก ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศและวิกฤตของโลก
นอกจากนี้คิชิดะ บอกว่า การเจรจาระหว่างสองประเทศในช่วงสองเดือนที่ผ่านมามีความคืบหน้าอย่างมาก และความสัมพันธ์ทวิภาคีอยู่ในเส้นทางที่พัฒนาดีขึ้น พร้อมกับกล่าวถึงประเด็นขัดแย้งเรื่องการบังคับใช้แรงงานในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลี โดยบอกว่า เขาปวดใจที่หลายคนยังคงเจ็บปวดกับประสบการณ์เลวร้ายในอดีต แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวคำขอโทษโดยตรงอย่างที่ชาวเกาหลีใต้คาดหวัง

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มมีสัญญาณบวกในเดือนมี.ค . หลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจจะจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อที่ถูกบริษัทญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานด้วยเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน โดยบริษัทญี่ปุ่นไม่ต้องร่วมรับผิดชอบ แม้ศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งในปี 2561 ให้บริษัทญี่ปุ่นต้องจ่ายชดเชย และนายกรัฐมนตรีคิชดะ แสดงความชื่นชมการตัดสินใจที่กล้าหาญของรัฐบาลเกาหลีใต้ แต่กลับมีเสียงวิจารณ์และความไม่พอใจจากประชาชนในเกาหลีใต้

และผู้ประท้วงหลายสิบคนชุมนุมต่อต้านญี่ปุ่นที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อต่อต้านการเยือนของนายคิชิดะ  โดยตะโกนเรียกร้องให้ญี่ปุ่นขอโทษและจ่ายเงินชดเชยสำหรับการยึดครองเกาหลีอย่างผิดกฎหมาย และให้รัฐบาลเกาหลีใต้ยุติการเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่น

เกาหลีใต้และญี่ปุ่นพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือเพื่อรับมือภัยคุกคามทั้งจากเกาหลีเหนือและการแผ่อิทธิพลของจีน สอดรับกับความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะผลักดันความร่วมมือไตรภาคีกับสองพันธมิตรในเอเชียเพื่อเผชิญหน้าภัยคุกคามร่วมกัน