มีการนัดหยุดงาน ประท้วง ครั้งใหญ่ปะทุขึ้นอีกครั้งที่ ฝรั่งเศส เพื่อต่อต้านแผน ปฏิรูประบบบำนาญ ของรัฐบาล โดยมีการรวมตัวกันอย่างน้อย 260 จุด ระดมผู้เข้าร่วมได้มากถึง 1 ล้าน 4 แสนคน เฉพาะการประท้วงที่กรุงปารีสก็มีผู้เข้าร่วมกว่า 81,000 คน ผู้เข้าร่วมการประท้วงยังมีการทุบทำลายรถยนต์จนได้รับความเสียหาย ตำรวจปราบจลาจลต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์
นี่ยังเป็นการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปหลายภาคส่วน คนหลายพันคนไม่มีไฟฟ้าใช้ โรงเรียนต้องงดการเรียนการสอน สนามบิน และรถไฟต้องลดการให้บริการ ขณะที่สหภาพแรงงาน CGT ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันหยุดงานเพื่อทำให้ “ฝรั่งเศสหยุดชะงัก”
สหภาพแรงงานด้านการศึกษาหลักของฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า โรงเรียน 120 แห่งจะปิดทำการในวันนี้ และครูระดับประถมศึกษา 60% จะหยุดงานประท้วงในเมืองหลวงของฝรั่งเศส
หน่วยงานการบินพลเรือนของฝรั่งเศสขอให้สายการบินลดเที่ยวบินตามกำหนดเวลาลง 20% ที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกลล์ และ 30% ที่สนามบินออร์ลี่ในปารีส ด้านแอร์ฟรานซ์กล่าวว่าประมาณ 20% ของเที่ยวบินระยะสั้นจะถูกยกเลิก แต่บริการระยะไกลจะยังคงให้บริการตามปกติ
บริษัททางรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส SNCF กล่าวว่ามีรถไฟส่วนภูมิภาคเพียงไม่กี่ขบวนที่จะให้บริการ และรถไฟ 4 ใน 5 ขบวนของ TGV (เตเฌเว) ซึ่งเป็นบริการรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองของฝรั่งเศสจะถูกยกเลิก รวมถึงบริการต่างๆ ที่อาจจะต้อง “หยุดชะงักอย่างหนัก” ในวันพุธ
การส่งเชื้อเพลิงไปยังสถานีบริการน้ำมันอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน เจ้าหน้าที่สหภาพอุตสาหกรรมน้ำมันหลักเปิดเผยว่าตอนนี้คนงานกำลังขัดขวางไม่ให้มีการขนส่งเชื้อเพลิงออกจากโรงกลั่นน้ำมันทั่วประเทศ และมีโรงกลั่นหลายแห่งที่น่าจะถูกปิดล้อมไปจนถึงสุดสัปดาห์ และยังมีพนักงานมากกว่า 40% ของบริษัทพลังงาน EDF ของฝรั่งเศสที่หยุดงานประท้วงตั้งแต่เมื่อวันอังคาร
ส่วนร่างกฎหมายที่เป็นชนวนเหตุของการประท้วงที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสต้องทนกับการหยุดงานหลายครั้งในปีนี้ มาจากการต่อต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ที่จะเลื่อนอายุเกษียณของพลเมืองฝรั่งเศสจาก 62 ปี เป็น 64 ปี ซึ่งถือเป็นการเลื่อนเวลาที่จะรับเงินบำนาญจากรัฐ และเพิ่มจำนวนปีที่ประชาชนต้องจ่ายเงินสมทบเพื่อรับเงินบำนาญจากรัฐเต็มจำนวน
รัฐบาลได้กล่าวว่าการปฏิรูปกฎหมายบำเหน็จบำนาญเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อจัดการกับการขาดดุลเงินทุน แต่การปฏิรูปดังกล่าวทำให้แรงงานทั่วประเทศไม่พอใจเพราะเป็นนโยบายที่ออกมาในช่วงเวลาที่ค่าครองชีพสูงขึ้น
ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และคาดว่าจะมีการลงมติร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายในปลายเดือนนี้