ปิดฉากแล้วสำหรับมหากาพย์การพิจารณาคดีครั้งประวัติศาสตร์ของฮอลลีวู้ดที่ใช้เวลาพิจารณานานกว่า 6 สัปดาห์ ในคดีที่ “จอห์นนี เดปป์” ฟ้องร้อง “แอมเบอร์ เฮิร์ด” อดีตภรรยา เพื่อเรียกค่าเสียหายฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยคดีนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยคณะลูกขุนที่ประกอบด้วยผู้ชาย 6 คน ผู้หญิง 3 คน ได้ใช้เวลาเกือบ 13 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 3 วัน พิจารณาข้อมูลและหลักฐานที่ได้มาอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะตัดสินให้ “เดปป์” เป็นฝ่ายชนะ โดย“แอมเบอร์ ” ต้องจ่ายค่าชดเชย ฐานทำให้เขาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นเงินทั้งสิ้น 15 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 515 ล้านบาท)
โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก “แอมเบอร์” ได้ฟ้องหย่า “เดปป์” ในปี 2015 โดยอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย แม้ภายหลังจะยอมความกันได้ แต่ในปี 2018 “แอมเบอร์” ได้ไปเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ อ้างว่าเธอเป็นบุคคลสาธารณะที่รอดชีวิตจากการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทำให้“เดปป์” ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากแอมเบอร์ 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเธอก็ได้ฟ้องกลับ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากเดปป์ถึง 100 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าทนายของเขาทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยการบอกว่าเธอกุเรื่องถูกทำร้าย
หลังจากที่คำตัดสินสิ้นสุดลง “แอมเบอร์” ได้ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังอย่างรุนแรง พร้อมบอกว่าเป็นความล้าหลังที่จะส่งผลต่อผู้หญิงคนอื่นๆ ในภายหลัง
“ความผิดหวังที่ฉันได้รับวันนี้มันเกินที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด ฉันใจสลายที่หลักฐานกองเป็นภูเขาก็ยังไม่เพียงพอที่จะยืนหยัดท้าทายอำนาจ และอิทธิพลของอดีตสามีฉัน แต่ฉันผิดหวังยิ่งกว่าที่คำตัดสินนี้จะส่งผลต่อผู้หญิงคนอื่นๆ ด้วย มันเป็นการถอยหลัง เป็นการย้อนเวลากลับไปตอนที่ผู้หญิงซึ่งลุกขึ้นมาพูดจะถูกทำให้อับอายและต่ำต้อยต่อหน้าสาธารณชน มันเป็นการขัดขวางแนวคิดที่ว่าการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงควรที่จะถูกมองกันอย่างจริงจังได้แล้ว”
ขณะที่ "จอห์นนี เดปป์" ได้โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมว่า “คณะลูกขุนมอบชีวิตผมให้กลับคืนมา”
อย่างไรก็ตามเดปป์จะได้เงิน 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 340 ล้านบาท) เป็นค่าสินไหมเชิงทดแทน (Compensation damages) และอีก 5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 170 ล้านบาท) เป็นค่าเสียหายเชิงลงโทษ (Punitive damages)
ขณะที่ทางฝ่ายแอมเบอร์เองก็ชนะการฟ้องร้อง 1 กระทง ทำให้เดปป์ต้องจ่ายค่าสินไหมเชิงทดแทนให้กับเธอ 2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 68 ล้านบาท) เช่นกัน
ทั้งนี้สำหรับแฟนภาพยนต์เรื่อง “Aquaman 2” จะต้องจับตาดูว่าวอร์เนอร์ บราเธอส์ (Warner Bros. Pictures) จะมีการตัดฉากตัวที่ละครที่ “แอมเบอร์” ได้แสดงหรือไม่หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า “แอมเบอ”ร์ อาจถูกตัดออกจาก Aquaman 2 ไม่เหลือสักนาที