ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการลูกทุ่งชื่อดังระดับตำนานของประเทศไทย หลัง “ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 79 ปี ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เนชั่นออนไลน์พาไปเปิดประวัติและเส้นทาง “ราชาเพลงแหล่” ตลอด 50 ปี
“ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” มีชื่อจริงว่า นายพราน สกุลณี เกิดเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ 2485 ที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของนายจำปี และนางอ่ำ สกุลณี ที่เป็นชาวไทยเชื้อสายลาว เรียกจบโรงเรียนวัดวังน้ำเย็นที่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้สร้างชื่อเสียงและผลงานไว้มากมายมาอย่างต่อเนื่องและยังมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับด้านเพลงพื้นเมืองภาคกลาง มีเพลงฮิตติดหูอยู่มากมาย
เริ่มหัดร้องเพลงอีแซว เพลงพื้นบ้านของ จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ โดยได้ฝึกหัดและหัดตามมารดา ซึ่งเป็นแม่เพลงอีแซว จนสามารถร้องเพลงอีแซว และเพลงแหล่ได้เมื่ออายุ 14 ปี จากนั้นได้หัดร้องลิเกกับคณะลิเกประทีป แสงกระจ่าง เมื่ออายุ 16 ปี ได้เข้าประกวดร้องเพลงครั้งแรกที่วัดท่าตลาด ต.วัดโบสถ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เพลงที่ร้องเป็นเพลงแหล่ของ พร ภิรมย์ ชื่อเพลง “จันทโครพ” ปรากฏว่าได้รางวัลที่ 1
ในช่วงนั้น “ไวพจน์” สนใจขับร้องเพลงลูกทุ่งมาก เพราะเป็นช่วงที่มีนักร้องลูกทุ่งมีชื่อเสียงเกิดขึ้นมากมาย ครั้งหนึ่ง “ชัยชนะ บุญนะโชติ” ได้นำวงดนตรีมาเล่นที่ตลาดสวนแตงและมีการรับสมัครประกวดร้องเพลง ไวพจน์จึงสมัครประกวดร้องเพลงด้วย และได้รับการชมเชยจากผู้ชมผู้ฟังเป็นจำนวนมาก “ชัยชนะ บุญนะโชติ” จึงชักชวนให้เข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งและตั้งชื่อให้ใหม่ว่า " ไวพจน์ เพชรสุพรรณ " หลังจากนั้นได้นำไวพจน์ ไปฝากเป็นศิษย์ของครูสำเนียง ม่วงทอง นักแต่งเพลงซึ่งเป็นชาว จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของวงดนตรี “รวมดาวกระจาย” ไวพจน์ จึงได้เข้ามาร่วมวงในฐานะนักร้องนำ ครูสำเนียงได้แต่งเพลงให้ร้อง และประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ เพลง "ให้พี่บวชเสียก่อน" และยังได้ขับร้องเพลงของนักแต่งเพลงผู้อื่น คือ จิ๋ว พิจิตร เช่น เพลง ”แบ่งสมบัติ” และ “21 มิถุนา ขอลาบวช” เป็นต้น
เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า “วงดนตรี ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” ที่ยังได้แต่งเพลงให้ศิลปินดัง อย่างราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ทำให้พุ่มพวงได้ขึ้นมาเป็นราชินีลูกทุ่งของวงการเมืองไทย เป็นศิลปินแห่งชาติในสาขา ศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ในปี พ.ศ 2540
เป็นศิลปินที่มีความสามารถรอบด้าน รอบตัวที่นอกจากเพลงลูกทุ่งแล้วยังสามารถเล่นเพลงพื้นบ้านได้อย่างดีเยี่ยมเกือบทุกประเภทและยังสามารถแหล่ด้นกลอนสดได้อีกด้วย ถือว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งที่สร้างผลงานและบันทึกแผ่นเสียงไว้สูงที่สุด
มีผลงานเพลงดัง เช่น หนุ่มนารอนาง สาละวันรำวง ฟังข่าวทิดแก้ว ใส่กลอนหรือเปล่า สาวภูไท รวยเขาแน่ ลำเลาะทุ่ง คนขายเลือด ครวญหาแฟนและเพลงดังอื่น ๆ อีกมากมาย
มีอัลบั้มชุดที่ดีที่สุด 30 ต้นฉบับเพลงฮิตและอัลบั้มชุดแหล่ 1-8 อัลบั้มชุดไวพจน์ลาบวช และในปี พ.ศ 2556 ยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณือันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภารณ์ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)